DRT

สภาแมงเม่า: ดร.สมชาย คุณอุษา จากพระราม 4 กรุงเทพฯ พูดถึงหุ้น DRT หรือ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) ในความคิดเห็นส่วนตัวของเขาว่า ธุรกิจตัวนี้ค่อนข้างดีแต่ราคาไม่ค่อยวิ่ง เมื่อเทียบกับหุ้นอื่นๆ ทำให้ "นักเก็งกำไร" ไม่ค่อยจะหันมามองหุ้นตัวนี้สักเท่าไหร่ เพราะเก็งกำไรไม่ค่อยได้ อีกอย่างหนึ่งคือโดยธรรมชาติของธุรกิจผลิต ต้องมีโรงงาน มีเครื่องจักร ทำให้ต้องคอยลงทุนอยู่เรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นอาจต้องเผชิญกับเหตุการณ์เมื่อผลิตเต็มกำลังแล้ว ยอดขายอาจไม่เติบโต จึงต้องเปิดไลน์ผลิตใหม่ทุกๆ 2-3 ปี จึงอยากรู้ว่า ในปี 58 หุ้นตัวนี้ยังจะน่าสนใจไหม ก่อนอื่นต้องบอกว่า ธุรกิจวัสดุก่อสร้างมีรอบการขึ้นลงเหมือนกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพียงแต่ไซเคิลของธุรกิจวัสดุก่อสร้างจะเป็นลักษณะหวือหวาแค่ 2-3 ปี หลังจากนั้นจะเกิดอาการตื้อๆ ตันๆ สักระยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นเด่นอีกครั้ง สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างเริ่มเงียบๆ เพราะโอกาสในการทำกำไรเพิ่มขึ้นในแต่ละปียังไม่ชัดเจน (อสังหาฯ โตไม่โตก็ดูได้จากโครงการที่เปิด ส่วนวัสดุก่อสร้างต้องลุ้นจากกำลังซื้อของผู้บริโภค) และผลดังกล่าวก็ทำให้นักลงทุนหันไปเล่นหุ้นกลุ่มอื่นเป็นการทดแทนมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่หุ้น DRT หรือ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) ไม่ค่อยมีบทบาทโดดเด่นเหมือนกับปีก่อนๆ เพราะราคาหุ้นในกระดานวิ่งรับข่าวดีไปมากแล้ว และตอนนี้ก็เหลือแค่ผลประกอบการจะออกมาดีเหมือนที่ประเมินไว้หรือเปล่า ถ้าออกมาดี ราคาหุ้นมีการไปต่อค่อนข้างสูง ถ้าออกมาไม่ดี ราคาหุ้นคงตื้อๆ ตันๆ หรือถึงขั้นปรับตัวลง ส่วนข้อโต้แย้งเดิมๆ ที่อาจารย์หยิบมาพูดเป็นประจำ คงเป็นการปฏิเสธว่า บริษัทนี้ไม่จำเป็นต้องลงทุนเรื่อยๆ เพราะเครื่องจักรซื้อมาชิ้นเดียว สามารถใช้ได้เป็นยี่สิบสามสิบปี ลงทุนห้าร้อยล้าน ต่อเครื่องจักรหนึ่งเครื่อง แต่สามารถทำกำไรได้เป็นพันล้าน (เรื่องนี้มีการพูดกันบ่อยมาก) ข้อเสียที่มีการพูดกันมากคือ ตัวบริษัทมีค่าใช้จ่ายด้านวัตถุดิบ กับค่าแรงที่อาจเป็นปัญหาในอนาคต และการเติบโตของธุรกิจตัวนี้อยู่ที่กำลังซื้อของผู้บริโภค? ทั้งหมดนี้สรุปได้แค่ว่า นี่ยังไม่ใช่จังหวะขาขึ้นของ DRT เพราะปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้อเหมือนก่อนหน้านี้ก็เท่านั้นเองครับ ถึงกระนั้นเมื่อดูรวมๆ ต้องยอมรับว่า นี่เป็นหุ้นที่ปันผลดีตัวหนึ่ง หากต้องการซื้อเพื่อรอรับเงินปันผลก็ค่อนข้างคุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวนักลงทุนมีแนวความคิดเกี่ยวกับการลงทุนเป็นไปแบบไหนต่างหาก!