EnergyTrading

นายอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 ยอดขายน้ำรวมอยู่ที่เกือบ 62 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 7% จากปีก่อน เนื่องจากภาวะการใช้สเปรดในตลาดไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นว่าครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวจากการกลับมาของอุปสงค์ในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคเคมีภัณฑ์ที่เริ่มกลับมาใช้งานเพิ่มขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำเพื่ออุตสาหกรรมขั้นสูง (Ad Product) มียอดขาย 5.4 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 29% และได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าใหม่ราว 5 ล้านลูกบาศก์เมตร หากปิดดีลสำเร็จจะทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก โดยครึ่งปีแรกบริษัทได้เซ็นสัญญากับลูกค้าแล้ว 28 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นรายได้ประมาณ 700 ล้านบาทต่อปี และครึ่งปีหลังยังมีการเจรจาอีก 16.4–29.2 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดสร้างรายได้เพิ่มราว 800 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ปริมาณน้ำ 27 ล้านลูกบาศก์เมตรแรกจะเริ่มใช้ตั้งแต่ปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ด้านโครงการในนิคมอุตสาหกรรม WHAUP เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโต ได้แก่ แพน้ำ 3.1 ที่สร้างแล้วเสร็จ รวมถึงโครงการ 2.1 และ EC4 ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ขณะที่ EC5 จะดำเนินการตามการพัฒนาของนิคมไทย นอกจากนี้ ธุรกิจในเวียดนามยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยครึ่งปีแรกมียอดขายน้ำ 18.6 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน โครงการหลักอย่างซองดวงยังคงเติบโตดีและอยู่ระหว่างการขออนุญาตขยาย ส่วนเกหลอเป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริษัทลงทุนเพื่อขายน้ำกลับมาให้กับนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ ซึ่งย้ำว่าเวียดนามยังเป็น “บ้านหลังที่สอง” ของบริษัท ทั้งนี้ ส่วนธุรกิจไฟฟ้า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์สู่พลังงานทดแทนเป็นหลักตั้งแต่ 5 ปีก่อน จากเดิมที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพียง 70 เมกะวัตต์ ปัจจุบันขยายเป็น 706 เมกะวัตต์ ในจำนวนนี้ 156 เมกะวัตต์เป็นโซลาร์ และอยู่ระหว่างก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 285 เมกะวัตต์ คาดว่าทำให้สัดส่วนพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็น 47% จากเดิม 12% สะท้อนการเติบโตตามกลยุทธ์ความยั่งยืนของกลุ่ม WHA โดยครึ่งปีแรกได้เพิ่มกำลังการผลิตแล้ว 26 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 65 เมกะวัตต์ ขณะที่ครึ่งปีหลังยังมีโครงการใหม่อยู่ระหว่างเจรจา รวมถึงโอกาสจากโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ตามแผน FiT ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในปีหน้า อีกกลยุทธ์สำคัญคือธุรกิจ Energy Trading ซึ่ง WHAUP ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีศักยภาพและผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ในนิคม ปัจจุบันมีลูกค้าสนใจเข้าร่วมกว่า 30 ราย และอยู่ระหว่างเตรียมทดสอบระบบ Sandbox ที่คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ หากสำเร็จจะเป็นโอกาสใหม่ในการซื้อขายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ รวมถึงต่อยอดไปสู่ธุรกิจคาร์บอนเครดิตในอนาคต สำหรับธุรกิจ Data Center WHAUP ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เชิงผูกพันกับผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่เพื่อร่วมพัฒนาโรงไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าสำหรับ Data Center โดยบริษัทเตรียมเข้าขอโควตาพิเศษ 2,000 เมกะวัตต์ภายใต้โครงการ Pilot DPPA ที่คาดว่ารัฐบาลจะประกาศภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาแนวทางลงทุนโรงไฟฟ้าเพื่อส่งไฟตรงให้กับลูกค้า Data Center ซึ่งหากมีการปรับปรุงกฎหมายเดินสายไฟฟ้าผ่านสาธารณะจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ Data Center ยังเป็นลูกค้าหลักด้านน้ำ โดยบริษัทได้วางระบบรับเงินมัดจำจากลูกค้าเพื่อรองรับการลงทุนระยะยาว ขณะที่น้ำเสียจาก Data Center ซึ่งมีคุณภาพดี สามารถนำกลับมารีไซเคิลเป็นน้ำดีเพื่อใช้ซ้ำได้ สอดรับกับกลยุทธ์ความยั่งยืนของ WHAUP บริษัทคงเป้าหมายยอดขายน้ำปีนี้ที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมถึงเพิ่มอีก 41 ล้านลูกบาศก์เมตรจากเวียดนาม และผลิตภัณฑ์น้ำพิเศษอีก 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนธุรกิจไฟฟ้าตั้งเป้ากำลังผลิตรวม 1,185 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปี โดยเฉพาะโซลาร์ที่ตั้งเป้าไว้ 657 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าขยายโครงการใหม่ต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว