Ishaq Dar

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (31 ก.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสหรัฐและปากีสถาน ได้บรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันแล้วโดยข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงการที่ปากีสถานจะได้รับการปรับลดอัตราภาษีศุลกากร ขณะที่สหรัฐฯจะช่วยพัฒนาแหล่งสำรองน้ำมันของปากีสถาน “เราเพิ่งบรรลุข้อตกลงกับประเทศปากีสถาน ซึ่งปากีสถานและสหรัฐอเมริกาจะทำงานร่วมกันในการพัฒนาแหล่งสำรองน้ำมันขนาดใหญ่ของพวกเขา เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการเลือกบริษัทน้ำมันที่จะเป็นผู้นำความร่วมมือนี้” ทรัมป์ กล่าว แม้ว่าทรัมป์ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดตกลงใดๆ เกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากร แต่ กระทรวงการคลังปากีสถาน กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าดังกล่าวจะส่งผลให้ทั้งสองประเทศปรับลดอัตราภาษีศุลกากรต่อกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกสินค้าจากปากีสถานไปยังสหรัฐฯ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดอัตราเท่าใด "ข้อตกลงนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพลังงาน เหมืองแร่และแร่ธาตุ ไอที คริปโทเคอร์เรนซี และภาคส่วนอื่น ๆ" กระทรวงการคลังปากีสถาน ระบุ ขณะที่ อิสฮัก ดาร์ (Ishaq Dar) รัฐมนตรีต่างประเทศของปากีสถาน โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดีย เพื่อยืนยันถึงการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวกับสหรัฐฯ เช่นกัน ซึ่งหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ปากีสถานมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับอัตราภาษีสูงถึง 29% ภายใต้มาตรการภาษีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว 90 วันในภายหลัง เพื่อให้ประเทศคู่ค้าสามารถเจรจากับสหรัฐฯ