JapanPolitics

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชิเกรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba) ประกาศลาออกจากตำแหน่งทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) หลังพรรคพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องในการเลือกตั้งทั่วไปและการเลือกตั้งวุฒิสภา ก่อนหน้านี้ นายอิชิบะ ระบุว่า จะรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์ของพรรคในเดือนกรกฎาคม และลาออกเมื่อกระบวนการเจรจาการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขามองว่าเป็น “ภารกิจแห่งชาติ” เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ การลาออกของอิชิบะจะนำไปสู่การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP ครั้งใหม่ในไม่ช้านี้ โดยมีชื่อแคนดิเดตที่ถูกจับตา อาทิ นางซาเนะ ทากาอิชิ (Sanae Takaichi) และนายชินจิโร่ โคอิซุมิ (Shinjiro Koizumi) การลาออกอย่างกะทันหันนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโครงสร้างพรรค LDP และนโยบายรัฐบาล รวมถึงประเด็นพันธมิตรและความมั่นคงในภูมิภาค ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าอาจเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองใหม่ เช่น พรรคซันเซโต (Sanseito) มีบทบาทมากขึ้น หากการเปลี่ยนผ่านไม่ราบรื่น สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า ตลาดพันธบัตรและหุ้นญี่ปุ่นเตรียมเผชิญความผันผวน หลังการประกาศลาออกของอิชิบะ เนื่องจากเขามีท่าทีเข้มงวดด้านนโยบายการคลัง (fiscal hawk) นายคัตสึโตชิ อินาโดเมะ นักกลยุทธ์อาวุโสจากบริษัทจัดการสินทรัพย์ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ กล่าวว่า ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวพิเศษเผชิญแรงกดดันมากขึ้นจากความไม่แน่นอนด้านการคลัง และแรงกดดันดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 30 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.285% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 20 ปี แตะ 2.69% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2542 สะท้อนต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นต่อเนื่องสำหรับรัฐบาล บริษัทเอกชน และประชาชน