LeeJaeMyung

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ก.ค.68) เวลา 05:16 น. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ตกลงทำ “ข้อตกลงการค้าเต็มรูปแบบและสมบูรณ์” (Full and Complete Trade Deal) กับสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) โดยมีสาระสำคัญหลายประการ ทรัมป์ ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้เกาหลีใต้จะมอบเงินจำนวน 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับสหรัฐฯ สำหรับใช้ในการลงทุน โดยการลงทุนเหล่านี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐอเมริกา และดำเนินการตามการพิจารณาและคัดเลือกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยตรง นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังตกลงจะจัดซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) หรือผลิตภัณฑ์พลังงานอื่น ๆ จากสหรัฐฯ มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะลงทุนเพิ่มเติมในสหรัฐฯ เพื่อวัตถุประสงค์ด้านเศรษฐกิจ โดยจำนวนเงินที่ชัดเจนจะมีการประกาศอีกครั้งภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า ในช่วงที่นายอี แจ-มยอง (Lee Jae Myung) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มีกำหนดเดินทางเยือนทำเนียบขาวเพื่อเข้าร่วมประชุมทวิภาคี ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังแสดงความยินดีต่อชัยชนะของประธานาธิบดีอี แจ-มยอง พร้อมระบุว่า ทั้งสองประเทศตกลงร่วมกันว่า เกาหลีใต้จะเปิดเสรีทางการค้าอย่างเต็มที่ กับสหรัฐฯ โดยยอมรับสินค้าจากสหรัฐฯ ทุกประเภท อาทิ รถยนต์ รถบรรทุก สินค้าเกษตร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ภายใต้ข้อตกลงนี้ สหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้ในอัตรา 15% ขณะที่สินค้าจากสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้จะได้รับยกเว้นภาษีทั้งหมด ทรัมป์ ระบุทิ้งท้ายว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับผู้แทนการค้า ซึ่งมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของข้อตกลงนี้ และได้หารือกันเกี่ยวกับ “ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้” ก่อนหน้านี้ สินค้าจากเกาหลีใต้เคยถูกกำหนดภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ที่ระดับ 25% ภายใต้คำสั่งประธานาธิบดีทรัมป์ในวันที่ 2 เมษายน 2025 อย่างไรก็ตามภายใต้ข้อตกลงใหม่กับเกาหลีใต้ สินค้าเกาหลีจะถูกกำหนดภาษีที่ 15% โดยเริ่มมีผลทันที หลังข้อตกลงทำสำเร็จเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ข้อตกลงฉบับนี้อาจส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน เทคโนโลยี และโลจิสติกส์ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างสหรัฐฯ–เกาหลีใต้ โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย