สังคมข่าวหุ้น

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,567.47 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 5.20 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 4.2 หมื่นล้านบาท


นิวส์เวฟ

 

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,567.47 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 5.20 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 4.2 หมื่นล้านบาท * โดยขาเข้าซื้อสุทธิเมื่อวานทางสถาบันตะลุยเข้าเก็บไป 1,221 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 288 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสุทธิต่างชาติสาดออก 1,074 ล้านบาท ตามด้วยรายย่อย 435 ล้านบาท

* สำหรับวันนี้มีหุ้นร้อนน่าสนใจที่ต้องจับตาดูกันหลายตัวไม่เบา เริ่มกันด้วยหุ้นแรกที่ต้องให้น้ำหนักเป็นพิเศษ พี่ JAS นั่นเอง * สำหรับ JAS มีประเด็นร้อนกรณีถึงเวลาเปิดประชุมผู้ถือหุ้นอย่างเป็นทางการแล้ว* โดยมีวาระสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การเปิดโหวตขออนุมัติขายสินทรัพย์ของ TTTBB ให้กับ JASIF * สำหรับมูลค่าการขายจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 70,000 ล้านบาท นั่นหมายความหากผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ทำรายการ เท่ากับ JAS เตรียมฟันกำไรพิเศษกันไปเต็มๆ *  และผลที่อาจจะตามต่อมาอีกสเต็ปแบบสไตล์พี่ JAS เพราะเมื่อบุ๊คกำไรพิเศษเข้ามา * จะมีโอกาสจ่ายปันผลพิเศษให้ได้เห็นตามกันต่อเนื่องเช่นกัน

* ฟากหุ้น IRPC เมื่อวานร้อนแรงแบบสุดโต่งวิ่งขึ้นทำราคาสูงถึง 5.60 บาท นิวไฮกันในรอบ 6 ปีทีเดียว * สำหรับ IRPC มีข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจกันไว้หน่อยนั่นคืองบไตรมาสแรก * โดยที่ผ่านมาวงการเงินเขามองไว้ว่า จะชะลอตัวลงจากช่วงปีก่อน เพราะมีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ทำให้กำลังผลิตหดหายไป * แต่ประเด็นนี้ส่วนใหญ่เขาได้รับรู้กันไปหมดแล้ว เพราะบริษัทเคยแจ้งล่วงหน้าผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปตั้งแต่ปลายปี 59 เสียด้วยซ้ำ * ดังนั้น ภาพรวมของตลาดฯ ปัจจุบันจึงได้ให้น้ำหนักการเติบโตแข็งแกร่งในเชิงระยะยาวเป็นหลักมากกว่า * พร้อมกับมองข้ามช็อตไปที่ไตรมาส 2 จะมีโอกาสฟันกำไรเติบโตแกร่งตามภาวะปกติ และทั้งปี 60 จะลุ้นฟาดกำไรทะลุ 1 หมื่นล้านบาท * อ้อ ที่สำคัญอีกอย่าง ตัว P/E ของ IRPC ที่ปัจจุบันยัดเทรดต่ำเพียงแค่ 11 เท่า * ปัจจัยบวกแน่นท่วมท้นแบบนี้ จึงไม่แปลกใจเลยสักนิด ที่วงการเงินหลายสำนักจะเลือกให้ IRPC เป็นหุ้นเด่นหัวแถวกลุ่มพลังงานขณะนี้

* หุ้น CHO ข่าวดีมาแล้วจ้า แหม เงียบกันไปนาน รีเทิร์นมากลับมาพร้อมข่าวใหญ่เลย * ล่าสุด มีการรายงานข่าวกันออกมาว่า โครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกย่อๆ ว่า e-Ticket  ของขสมก. * ปรากฏทาง CHO เป็นผู้ได้คว้างานกันไปในมูลค่ารวม 1,786 ล้านบาท * งานนี้ ถ้าไม่มีการผิดแผน พลิกโผ หรือ ปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้มาปั่นป่วน * CHO เองจะได้งานใหญ่ในมือพร้อมหนุนการเติบโตเชิงระยะยาวสบายๆ * เมื่อข่าวดีมาแล้ว สายเทรดดิ้งอย่ารอช้าจัดกันไปกันได้เลย

* หุ้น SCC นับเป็นหุ้นใหญ่ที่มาช่วยกู้หน้ากลุ่มบลูชิพ * เพราะสามารถฟันกำไรไตรมาสแรกโตทุบสถิติสูงกว่า 17,000 ล้านบาท ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ด้วยซ้ำไป * แรงบวกหลักมาจากสายธุรกิจเคมีคอลที่โตระดับสูง * ใครมีหุ้นอยู่ในมือแบบนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากมายถือยาวกันต่อไปเพื่อรอกินกำไรได้เลย

* หุ้นร้อนประจำวัน 26 เม.ย. 2560 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List) และขยายช่วงดำเนินการ คือ บริษัท โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FOCUS ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่ 27 เม.ย. – 17 พ.ค. 2560

* ปิดท้ายด้วยหุ้น BEAUTY หลังจากเกิดแพนิคช่วงต้นสัปดาห์ โดนถล่มขายหุ้นกดราคาทรุดอย่างหนัก * เมื่อวานกลับมาวิ่งบวกไปได้เกือบ 5% พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 700 ล้านบาท * แถมล่าสุด “หมอสุวิน ไกรภูเบศ” ได้ออกปากย้ำและยืนยันอย่างหนักแน่นว่า พื้นฐานบริษัทแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนนะ * โดยต่อให้ภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว แต่จะไม่กระทบบริษัทมากนัก เพราะสินค้า BEAUTY มีกลุ่มเป้าหมายให้ตีตลาดชัดเจน * แล้วยังมีช่องทางขายสินค้ากระจายแบบทั่วถึงกลุ่มลูกค้า * ด้านโบรกฯ เองได้เคลื่อนไหวออกบทวิเคราะห์แนะนำให้ใช้จังหวะนี้เข้าซื้อหุ้น BEAUTY สวนราคารูดไปเลย * เพราะคาดว่า งวดไตรมาสแรกจะมีโอกาสฟันกำไรถึง 190 ล้านบาท โตขึ้น 47% จากปีก่อน (อ้าวไหนใครบอกงบไม่ดีไง) * โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ยืนเหนือระดับ 12 บาท * งานนี้ก็เลยไม่รู้เหมือนกันว่า แพนิค ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วจะกลายเป็นเพียงแค่การ “ตื่นตูมจนขายหมูหรือเปล่า” อิอิ *

Back to top button