ด่วน! กรมชลฯเร่งระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่ม เตือน 7 จังหวัดริมแม่น้ำเตรียมรับมือน้ำท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานวานวันนี้(4 ก.ย.) เพจเฟซบุ๊ก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานระบุว่ากรมชลประทานเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเย็นวันนี้ อัตรา 750 ลบ.ม.ต่อวินาทีจะส่งผลพื้นที่ลุ่มหลายอำเภอจ.อ่างทอง– อยุธยาแนวแม่น้ำน้อยน้ำท่วมพื้นที่ 10-20 ซม. เร่งตัดยอดน้ำเหนือเข้าบึงบอระเพ็ด

โดย นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้แจ้งเตือนจังหวัด 7 จังหวัดแนวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในช่วงเวลา 18.00 น. วันนี้เขื่อนเจ้าพระยาจ.ชัยนาท จะระบายน้ำเพิ่มเป็น 750 ลบ.ม./วินาทีส่งผลทำให้แม่น้ำน้อยบริเวณคลองโผงเผงจ.อ่างทองคลองบางบาลต.หัวเวียงต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำจะเริ่มเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำระดับน้ำจะสูงประมาณ 10-20 ซม.

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้ประสานกับทางจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยาและลพบุรี ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริษัทห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยารวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ด้านท้ายประตูระบายน้ำผักไห่ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ด้าน นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่12 จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ในอีก 3 วันข้างหน้าสถานการณ์น้ำเหนือที่จะไหลมาสมทบที่จ.นครสวรรค์ ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากขณะนี้ที่สถานีวัดน้ำ C 2 อำเภอชุมแสงเช้านี้ 1,227 ลบ.ม./วินาทีเป็น 1,340 ลบ.ม./วินาทีทั้งนี้จากมวลน้ำเหนือในแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมยังมีปริมาตรมากอยู่

ดังนั้นจึงตัดสินใจผันน้ำบางส่วนเข้าจากแม่น้ำน่านเข้าไปเก็บกักในบึงบอระเพ็ดเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งเป็นการลดปริมาตรน้ำหลากและทำให้น้ำในบึงบอระเพ็ดมีเพิ่มขึ้นดีทั้งต่อการแพร่ขยายพันธุ์สัตว์น้ำและรักษาระบบนิเวศโดยจะบริหารจัดการแบ่งน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานตามศักยภาพการรับน้ำและลดผลกระทบน้ำท่วมกับจังหวัดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ท้ายเขื่อนให้มากที่สุด

https://www.facebook.com/183675461657982/posts/3557322020959959?sfns=mo