ปปง.เชือดล็อตใหญ่! ยึดทรัพย์ 1.37 พันล้าน “นอท กองสลากพลัส” โดนด้วย หลังเอี่ยวพนันออนไลน์

“ปปง.” ยึดและอายัดทรัพย์สิน 70 คดี มูลค่ากว่า 1,373 ล้านบาท ครอบคลุมคดีฉ้อโกง คอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ยาเสพติด และลักลอบหนีศุลกากร ฟาก “นอท กองสลากพลัส” ถูกยึดและอายัดทรัพย์สินรวมกว่า 73 ล้านบาท


นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และโฆษกสำนักงาน ปปง. เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการและเลขานุการ ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาหลายประเภท รวมทั้งสิ้น 70 คดี เป็นทรัพย์สิน 1,957 รายการ มูลค่าประมาณ 1,373 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีการอายัดทรัพย์สิน 41 รายการ มูลค่ากว่า 55 ล้านบาท อาทิ คดีนายจำรูญและพวก อายัดบัญชีเงินฝาก 1 รายการ มูลค่า 18 ล้านบาท และคดีนายอังคารและพวก อายัดบัญชีเงินฝาก 40 รายการ มูลค่า 37 ล้านบาท ขณะที่คดีฉ้อโกงประชาชนและฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อายัดทรัพย์สินรวม 367 รายการ มูลค่ากว่า 603 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งคดีคอลเซ็นเตอร์เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ คดี Hybrid Scam หลอกลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเป็นตำรวจ คดีโครงการขายห้องชุดที่ไม่สามารถก่อสร้าง และคดีหลอกลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี่

ด้านคดีการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินกว่า 248 รายการ มูลค่ากว่า 326 ล้านบาท โดยเฉพาะคดีเครือข่ายของ ร.ต.ท.ณัฐศักดิธัช และ คดีนายพันธ์ธวัช หรือ “นอท กองสลากพลัส” รวมถึงคดีฟอกเงินที่เชื่อมโยง โดยมีทั้งเงินสด ยานพาหนะ ที่ดิน และบัญชีเงินฝากถูกอายัดเป็นจำนวนมาก

โดยในรายคดี นอท กองสลากพลัส กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และมีพฤติการณ์เกี่ยวกับการนำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดไปจำหน่าย จ่าย โอน มีลักษณะเป็นการฟอกเงิน ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 47 รายการ เช่น เงินสด ยานพาหนะ ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝาก รวมมูลค่าประมาณ 73 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีคดีลักลอบหนีศุลกากร เช่น กรณีบุหรี่ไฟฟ้าในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีคำสั่งยึดทรัพย์สิน 15 รายการ มูลค่า 27 ล้านบาท รวมถึงการส่งเรื่องให้อัยการยื่นศาลสั่งตกเป็นของแผ่นดิน 22 คดี มูลค่า 207 ล้านบาท และคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย 11 คดี มูลค่า 21 ล้านบาท อาทิ คดีหลอกให้เล่นหุ้นสกุลเงินต่างประเทศ และคดีของนางชยาวรรณกับพวก

ทั้งนี้ ปปง. ย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการสกัดกั้นและตัดวงจรการเงินของเครือข่ายอาชญากรรมทั้งยาเสพติด ฉ้อโกง และการพนัน โดยมุ่งให้ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดไม่สามารถหมุนเวียนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจ และคืนสิทธิประโยชน์แก่ผู้เสียหายอย่างเป็นธรรม

Back to top button