
จับตา! NER โชว์กำไรปี 62 แจ่ม โบรกฯมองอนาคตไกลรับออเดอร์แน่น-ขยายกำลังผลิต ชูเป้า 3.40 บ.
จับตา! NER โชว์กำไรปี 62 แจ่ม โบรกฯมองอนาคตไกลรับออเดอร์แน่น-ขยายกำลังผลิต ชูเป้า 3.40 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เตรียมประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2562 และงวดปี 2562 โดย “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลของนักวิเคราะห์ที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของ NER ทั้งในส่วนของปี 2562 รวมถึงแนวโน้มในปี 2563 มาเพื่อนำเสนอต่อนักลงทุน
โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ NER ทั้งปี 2562 และ 2563 ยังดีต่อเนื่อง โดยบริษัทมีลูกค้าใหม่เข้ามาอีกหลายรายพร้อมป้อนออเดอร์ในปีนี้ ขณะที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาประมาณ 15% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจากการที่บริษัทเพิ่มกำลังการผลิตในผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ แต่ NER ยังซื้อขายที่ PER 2563 เพียง 7.5 เท่า รวมถึงจะเติบโตต่อเนื่องจากการได้ประโยชน์จากการเพิ่มกำลังผลิตและการขยายฐานลูกค้าในช่วงปี 2563-2564
ทั้งนี้ แม้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2562 อาจจะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนตามราคายางที่ลดลงแต่คาดว่าผลประกอบการปี 2562 จะยังเติบโตจากการขยายกำลังการผลิตยางแผ่นรมควันผสม 60,000 ตันส่งผลให้ในปี 2562 มีกำลังการผลิตรวมเป็น 292,800 ตัน เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
รวมถึงการย้ายฐานการผลิตของลูกค้ายางล้อในจีนมาไทยเพื่อลดปัญหาภาษีส่งออกของจีนและการกีดกันทางการค้า โดย NER มีลูกค้ารายใหญ่ 2 รายพร้อมที่จะเซ็นสัญญา Long Term เมื่อโรงงานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ คือ MICHELIN และ Apollo Tyre ซึ่งได้เข้ามาตรวจสอบคุณภาพโรงงานแล้ว พร้อมป้อนออเดอร์ในต้นปี 2563
อีกทั้งคาดว่าแนวโน้มการดำเนินงานปี 2563 จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทั้งจากลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ และอยู่ระหว่างสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตอีก 172,800 ตัน แล้วเสร็จประมาณไตรมาส 3/2563 ดังนั้นประเมินกำไรปี 2563 ที่ 590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับปี 2562
อย่างไรก็ตาม NER อาจได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส “โควิด-19” เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าจีนอยู่ที่ราว 30-40% อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำ “ซื้อ” หุ้น NER ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท จากการเพิ่มกำลังการผลิตยางผสมที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจจะได้รับแรงกดดันจากผู้ประกอบการรถยนต์ในจีนลดกำลังการผลิตลง
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ มีมุมมองเป็นบวกต่อการดำเนินงานปี 2563 ของ NER ซึ่งคาดว่าจะดีกว่าที่เคยคาดไว้จากปัจจัยราคายางที่ปรับขึ้นต่อเนื่องจากภัยแล้งที่เกิดขึ้น รวมถึงการขยายกำลังการผลิตที่จะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2563 ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ที่จะส่งมอบในครึ่งแรกของปี 2563 รวมถึงลูกค้าเดิมมีส่งคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากต้นทุนการผลิตที่ลดลงหลังโรงไบโอแก๊สเริ่มใช้ในไตรมาส 2/2563
อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาพื้นฐานขึ้นจากเดิมมาที่ 3.36 บาทต่อหุ้น จากผลบวกของราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น