SPVI ปิดพุ่ง 17% “ออลไทม์ไฮ” ทะลุเป้า 6.90 บาท ลุ้นกำไรปีนี้โต 39% แตะ 102 ลบ.  

SPVI ปิดพุ่ง 17% “ออลไทม์ไฮ” ทะลุเป้า 6.90 บาท ลุ้นกำไรปีนี้โต 39% แตะ 102 ลบ. โดยปิดตลาดวันนี้(24พ.ย.64) ราคาอยู่ที่ 7.80 บาท บวก 1.15 บาท  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(24พ.ย.2564) ราคาหุ้น บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI  ปิดตลาดที่ระดับ 7.80 บาท บวก 1.15 บาท หรือ 17.29% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 577.74 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2556

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 พ.ย.2564) ว่า SPVI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ที่ 14.40 ล้านบาท ลดลง 14.60% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 83.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มากกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 9 ล้านบาท

สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงที่ 9.90% ดีกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาดที่ 8.90% จากสัดส่วนยอดขายออนไลน์ที่มากขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายหลังบ้านที่ดี ส่วนกำไรโดยรวมลดลงจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยฤดุกาล แต่ยังโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน ได้จากฐานที่ต่ำในปีก่อน %SG&A to sales เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 8.80% จาก 8.30% ในไตรมาส 2/2564 ตามรายได้ที่ลดลง

สำหรับในไตรมาส 4/2564 ปีนี้มีความพิเศษมากกว่าปีก่อนคือ SPVI จะมีระยะเวลาขาย iPhone13 เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 2 เดือน โดยเปิดขาย iPhone13 ไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา จากการสอบถามกับบริษัท ยอดขาย iPhone13 มีผลตอบรับดีตั้งแต่เปิดจองครั้งแรก แต่อาจมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนชิพอยู่บ้าง โดยรวมผลประกอบการไตรมาส 4/2564 เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน มีแนวโน้มเติบโตดี

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยจึงคาดกำไรทั้งปี 2564 ไว้ที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  39.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมี CAGR ปี 2564 – 2567 ที่ 20.10%

อีกทั้งด้วยกลยุทธ์ของบริษัทในระยะยาวที่เน้นเจาะตลาดกลุ่มนักศึกษาผ่านร้าน U Store และ A Store รวมถึงภาพรวมธุรกิจค้าปลีก IT ผลประกอบการยังได้รับแรงหนุนจากกระแส 5G และ Work From Home ทำให้แนวโน้มการเติบโตในระยะ 2 – 3 ปี ยังคงดี ทางฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรไว้เหมือนเดิม อ้างอิง 2 Year ค่า PE ของกลุ่มธุรกิจสินค้า IT ที่ 22 เท่า จะได้ราคาเป้าหมายที่ 6.90 บาท อิงปี 2565 ค่า PE ที่ 22 เท่า และอิงค่า PEG 1.10 เท่า แนะนำ “ซื้อ”

Back to top button