ตะกอนในน้ำใส.!

กรณีเมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์มาปุ๊บ ผู้ถือหุ้นใหญ่ (ที่ไม่ติดไซเรนท์ พีเรียด) ก็สาดหุ้นออกมาปั๊บ...ซึ่งบ้างก็ขายยกล็อต บ้างก็ตัดขายบางส่วน...


กลายเป็นตำหนิของหุ้นไอพีโอไปซะแล้ว..!! กรณีเมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์มาปุ๊บ ผู้ถือหุ้นใหญ่ (ที่ไม่ติดไซเลนต์ พีเรียด) ก็สาดหุ้นออกมาปั๊บ…ซึ่งบ้างก็ขายยกล็อต บ้างก็ตัดขายบางส่วน…

บางรายที่ขายตั้งแต่วันแรก ก็พอทำเนาได้ อย่างน้อยก็ไม่แสวงหากำไรจากแคปปิตอลเกนมากนัก แต่บางรายดันราคาจนชนซิลลิ่งแล้วขาย ก็ส่อเจตนาชัดแสวงหากำไรจากแคปปิตอลเกน…

ทำให้แทนที่ราคาหุ้นจะวิ่งไปตามปัจจัยพื้นฐาน ก็ไปต่อไม่ได้…เพราะนักลงทุนเกิดความหวาดระแวงไม่รู้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหุ้นออกมาอีกหรือเปล่า..?

กลายเป็นตราบาปหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมา..!!

ก่อนหน้านี้มีหลายหุ้นที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม “ขวัญศิรินทร์ โรจนพฤกษ์” ตัดขายหุ้นออกมา 3.0077%  ตั้งแต่วันแรก ส่งผลให้ราคาหลุดจองตั้งแต่วันแรกเช่นกัน…แต่ล่าสุดได้ข่าวว่า ขายสะเด็ดน้ำแล้วนะ…

ตามมาด้วยบริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT ที่ “วิไล ตั้งคารวคุณ” กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมขายล้างพอร์ต 8.6956%

รวมทั้งบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ซึ่ง “ประสิทธิ์ชัย แดงประเสริฐ” เจียดขายหุ้นออกมา 0.0549%

และรายล่าสุด บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ซึ่งบริษัท สรีราภรณ์ จำกัด กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมขายล้างพอร์ต 4.31% เช่นกัน

โอเค…ในแง่กฎหมายทำได้ เป็นการขายทำกำไรของผู้ถือหุ้นเดิม…ไม่ผิดอะไร…แต่บางหุ้นไม่ได้ระบุไว้ในไฟลิ่งถึงปัจจัยเสี่ยง ให้นักลงทุนรับรู้ในการเข้ามาซื้อหุ้นไอพีโอ อย่างน้อยจะได้ไม่ต๊กกะใจจนเกินไป…แต่หลายหุ้นไม่เป็นเช่นนั้น มีข้ออ้างออกมาร้อยแปดพันเก้า…ฟังขึ้นบ้าง ไม่ขึ้นบ้าง ก็ว่ากันไป…

อย่างกรณี SVT ผู้ถือหุ้นเดิมขายหุ้นออกมา ทำได้ อันนี้ไม่เถียง…แต่การขายครั้งนี้ คนที่ขายก็ยอมรับว่า มีการเจรจากับกองทุนไว้นานแล้วว่าสนใจซื้อ ก็น่าจะระบุถึงปัจจัยเสี่ยงไว้ตั้งแต่แรกมั้ย..? แต่ไปดูแล้วไม่มีระบุในไฟลิ่ง..!!

หรือถ้าจะขายจริง ๆ และให้เกิดความเป็นธรรมกับนักลงทุนสักหน่อย ก็น่าจะขายตั้งแต่วันแรกป่ะ ไม่ใช่รอให้ราคาขึ้นไปสูง ๆ แล้วค่อยขายอย่างนี้…

แหม๊…ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ามีกองทุนสนใจ ก็น่าจะบอกกล่าวให้นักลงทุนได้รู้เนื้อรู้ตัวสักหน่อยก็ดีนะ

ที่จริงในตลาดก็มีแบบอย่างที่ดีให้เห็นอยู่นะ อย่างกรณีลิสซิ่งล้านนา บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG ที่ผู้ถือหุ้นเดิมกลุ่มทวีเฮงและกลุ่มพัฒนสิน ขายบิ๊กล็อตวันแรก จำนวน 381 ล้านหุ้น หรือคิด 10% ที่ราคาไอพีโอ 1.95 บาท ให้กับธนาคารกสิกรไทย อันนั้นก็มีการตีฆ้องร้องป่าวให้นักลงทุนรู้ก่อนล่วงหน้า…นักลงทุนก็ไม่ได้ตกอกตกใจอะไร…แถมราคาหุ้นกลับปิดเหนือจองด้วยซ้ำไป

แต่ SVT ดันไม่เอาแบบอย่างซะงั้น.! เลยทำให้นักลงทุนเกิดอาการหวาดระแวง เพราะไม่รู้ผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายอีกมั้ย..?

SVT จึงกลายเป็นตะกอนในน้ำใส..!! ที่ปัจจัยเสี่ยงไม่ได้อยู่ที่ปัจจัยพื้นฐาน…แต่อยู่ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ต่างหากล่ะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button