PPS ลุยเสนองานเอกชนในปท.150 ลบ.ลุ้นงานในลาว-เขมรรวมกว่า 30 ลบ.

PPS คาดผลประกอบการปีนี้ยอมรับรายได้จะต่ำกว่าเป้า เนื่องจากงานโครงการขนาดใหญ่ในภาครัฐที่บริษัทฯมีโอกาสเข้าไปรับงานน่าจะยังไม่สามารถเริ่มต้นภายในสิ้นปี 58 ขณะที่พร้อมเดินหน้าเสนองานเอกชนในปท.150 ลบ.พร้อมลุ้นงานในลาว-เขมรรวมกว่า 30 ลบ.


นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยว่า บริษัทได้เดินหน้าเข้าเสนองานงานวิศวกรที่ปรึกษากับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในส่วนของภาคเอกชน ซึ่งขณะนี้มีการเจรจากับกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มค้าปลีกต่อเนื่อง มูลค่ารวมประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 1/59

ส่วนการเข้าประมูลงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ AEC ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจางานวิศวกรที่ปรึกษาโครงการที่ประเทศลาว มูลค่าโครงการกว่า 10 ล้านบาท และที่ประเทศกัมพูชา มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 4/58

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมวิศวกรก่อสร้างได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของโครงการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ พร้อมทั้งคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวน่าจะยังทรงตัวต่อไปจนถึงสิ้นปี 2558 แต่ยังคงเชื่อมั่นว่าในช่วงต้นปี 2559 รัฐบาลน่าจะเร่งผลักดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ออกมา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจก่อสร้างและภาคเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง

นอกจากนี้งานออกแบบของ PPS Design บริษัทยังคงยื่นเสนองานในหลายโครงการ และอยู่ระหว่างการออกแบบที่พักอาศัยในประเทศกัมพูชา มูลค่าโครงการ 6 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2/59 จากนั้นจะเจรจาเข้าดูแลงานวิศวกรปรึกษาโครงการต่อ ซึ่งหากการเจรจาเป็นผลสำเร็จจะส่งผลให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 330 ล้านบาท รับรู้รายได้ถึงปี 62

สำหรับผลประกอบการในปี 58 บริษัทยอมรับว่ารายได้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯเริ่มมองเห็นสภาวะตลาดที่ลดสภาวะความกดดันทางด้านการแข่งขันลงในปี 59 เนื่องจากบริษัทฯเริ่มที่จะได้รับงานขนาดใหญ่ในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้รวมไปถึงงานในตลาด AEC ที่บริษัทฯได้มีโอกาสเข้าไปเสนองานและเริ่มที่จะได้รับงานมาบางส่วน ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธและเป้าหมายที่บริษัทฯได้วางไว้

ขณะที่งานโครงการขนาดใหญ่ในภาครัฐที่บริษัทฯมีโอกาสเข้าไปรับงานน่าจะยังไม่สามารถเริ่มต้นภายในสิ้นปี 58 เนื่องจากงานข้างต้นยังไม่ได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดีบริษัทฯมั่นใจว่างานในภาครัฐจะต้องเริ่มกระบวนการคัดเลือกและสรุปผลภายในปี 59 อย่างแน่นอนตามนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนของประเทศ

Back to top button