TFM เด้งแรง 4% หลังกำไร Q3 ดีกว่าคาด โบรกเคาะเป้าใหม่ 12.25 บ.

TFM เด้งแรง 4% ราคาแตะ 8.95 บ. หลังโชว์กำไรไตรมาส 3/65 แตะ 58 ลบ. ดีกว่าคาด โบรกแนะ “ซื้อเก็งกำไร” ประเมินราคาเป้าใหม่ 12.25 บ. คาดกำไรปี 66 ฟื้นตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 2 พ.ย.65) ราคาหุ้น บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ล่าสุด ณ เวลา 15:32 น. อยู่ที่ระดับ 8.95 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 4.07% สูงสุดที่ระดับ 9.35 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.90 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 7.30 ล้านบาท

ทั้งนี้บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TFM รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 58 ล้านบาท ลดลง 17% เมื่อเทียบจากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 71% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 3/65 ซึ่งได้แก่ ขาดทุนจากการตั้งด้อยค่าลูกหนี้การค้า 10 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 1 ล้านบาท กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 66 ล้านบาท ลดลง 22% เมื่อเทียบจากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 322% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน กำไรสุทธิและกาไรหลักสูงกว่าที่บล.บัวหลวง คาด 67% และ 125% ตามลำดับ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด ยอดขายสูงกว่าที่เราคาด 2% อัตรากาไรขั้นต้นในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 11.1% ซึ่งสูงกว่าที่บล.บัวหลวง คาดก่อนหน้าที่ 8.5% (เทียบกับ 11.5% ในไตรมาส 3/64 และ 7.2% ในไตรมาส 2/65)

สำหรับในไตรมาส 4/65 คาดการณ์กำไรหลักที่ 30 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน (เนื่องจากผลจากภาวะน้าท่วมในช่วงเดือนต.ค. ได้ส่งผลให้วอลุ่มขายอาหารปลาและอาหารสัตว์บกลดลง) และลดลง 55% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน  (เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการเลี้ยงปลาในประเทศปากีสถานซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้มีการหยุดเลี้ยงปลาชั่วคราวตั้งแต่กลางเดือนต.ค. จนถึงเดือนก.พ. และช่วงโลว์ซีซั่นของการเลี้ยงกุ้งในประเทศไทย) คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 9% ในไตรมาส 4/65 (ลดลงจาก 9.4% ในไตรมาส 4/64 และ 11.1% ในไตรมาส 3/65)

ส่วนราคาตลาดของวัตถุดิบในไตรมาส 4/65 คาดราคากากถั่วเหลืองมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ที่ 22-22.5 บาท/กก. ในขณะที่ราคาปลาป่นคาดว่ามีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ส่วนราคาข้าวสาลีมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน (จากข่าวที่รัสเซียหยุดเข้าร่วมแผนการส่งออกธัญพืชของยูเครน หลังจากที่โดรนได้เข้าโจมตีเรือรบของรัสเซียเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา)

ทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ไว้เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 125 ล้านบาท แต่ปรับประมาณการกำไรหลักปี 65 เพิ่มขึ้นอีก 16% เป็น 117 ล้านบาท เพื่อสะท้อนอัตรากาไรขั้นต้นที่ปรับเพิ่มขึ้น จาก 7.9% ไปเป็น 8.5% ปรับไปใช้เป็นราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 66 แทน จากเดิม ณ สิ้นปี 65 และได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12.25 บาท

อีกทั้งยังคงคำแนะนา “ซื้อเก็งกำไร” สำหรับหุ้น TFM เนื่องจากการคาดการณ์ว่ากำไรมีแนวโน้มกลับมาเติบโตเมื่อเทียบจากปีก่อน ได้อีกครั้งในไตรมาส 1/66 เป็นต้นไป ถ้าเทียบกับจุดต่ำสุดของกำไรในไตรมาส 1/65

Back to top button