SNNP แจงปม “ภัทร” หั่นเป้าดุ ยัน! นักวิเคราะห์ไม่เคยขอข้อมูล มั่นใจกำไรปีนี้โตสองหลัก

SNNP แจงปมข่าวอ้างอิงบทวิเคราะห์ “บล.เกียรตินาคินภัทร” ปรับราคาเป้าหมายลงมาเหลือ 17 บาทต่อหุ้น จากเดิม 24 บาทต่อหุ้น ยืนยันนักวิเคราะห์ไม่เคยขอข้อมูล ด้าน “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” ตั้งเป้ากำไรปี 66 โตสองหลัก พร้อมคาดไตรมาส 4/66 ผลการดำเนินงานจะทำนิวไฮใหม่เข้าช่วงไฮซีซั่นตลาดขนมขบเคี้ยว


จากกรณีการรายงานข่าว อ้างอิงบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS โดยระบุเกี่ยวกับการปรับลดประมาณการและราคาเป้าหมาย บริษัทศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP จากเดิมประเมินไว้อยู่ที่ 24 บาทต่อหุ้น ลงมาเหลืออยู่ที่ 17 บาทต่อหุ้น

ล่าสุด นายศุภโชค บำรุงพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน SNNP ส่งหนังสือถึง กรรมการผู้จัดการ บล.เกียรตินาคินภัทร โดยระบุว่า สืบเนื่องจากข่าวในโลกโซเชียลมีเดียระบุบทวิเคราะห์ของ SNNP ซึ่งจัดทำโดย บล.เกียรตินาคินภัทร และทางสื่อมวลชนได้ทำข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่ต่อสาธารณชนเป็นวงกว้างแล้วนั้น

ทั้งนี้ บริษัทยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากทาง บล.เกียรตินาคินภัทร อย่างเป็นทางการจากบริษัทท่านหรือนักวิเคราะห์ของบริษัทท่าน ตามข้อเท็จจริงในปัจจุบัน บล.เกียรตินาคินภัทร ยังไม่เคยออกบทวิเคราะห์ของ SNNP มาก่อนแต่อย่างใด

ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทจึงมีความกังวลว่าข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียในขณะนี้อาจจะเป็นข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง แต่ถูกเผยแพร่โดยการอ้างชื่อ บล.เกียรตินาคินภัทร เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงในวงกว้าง ในนามของ SNNP จึงเรียนท่านเพื่อขอความอนุเคราะห์โปรดจัดส่งสำเนาบทวิเคราะห์ดังกล่าวที่ถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดียให้กับทางบริษัทเพื่อความเข้าใจสมมติฐานในการออกบทวิเคราะห์ของท่านต่อไป

โดย ณ โอกาสนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทางบริษัทจะได้เปิดเผยข้อมูลบริษัทเพื่อให้นักวิเคราะห์ของ บล.เกียรตินาคินภัทร ได้นำไปใช้ประเมินได้อย่างถูกต้องและชัดเจนตามหลักการเพื่อประโยชน์สูงสุดในภาพรวมของทุกฝ่าย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า บทวิเคราะห์ที่มีการอ้างถึงในข่าวนั้น ข้อเท็จจริงเป็นรายงานส่งภายในองค์กรของ บล.เกียรตินาคินภัทร หรือที่เรียกว่า Sales Report ที่มีการส่งต่อกันในอีเมลเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการอ้างอิงเฉพาะภายในองค์กรเท่านั้น อย่างไรก็ดี บุคคลากรของ KKPS อาจมีการส่งออกสู่ภายนอกให้กับนักลงทุนบางกลุ่มและนักลงทุนสถาบันบางส่วนด้วย แต่ไม่ใช่บทวิเคราะห์อย่างเป็นทางการ เนื่องจากก่อนหน้าการประกาศงบการเงิน 45 วัน ภายหลังจากที่บริษัทปิดงบการเงินงวดบัญชีสิ้นสุดไตรมาส 3/2566 ทางโบรกเกอร์จะไม่มีการปรับประมาณการหรือราคาเป้าหมายออกมาเสนอต่อสาธารณชน

ด้าน นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงตั้งเป้าหมายผลักดันกำไรเติบโต 2 หลัก และคาดว่าในไตรมาส 4/66 ผลการดำเนินงานจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงไฮซีซั่นของตลาดขนมขบเคี้ยว โดยบริษัทวางแผนจะออกผลิตภัณฑ์เบนโตะ รสชาติใหม่ 2 รสชาติ ในเดือน พ.ย. และผลิตภัณฑ์เจเล่ ชิววี่ เยลลี่ จึงคาดการณ์ว่าผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ทำนิวไฮอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้จากยอดขายในเวียดนามลดลงจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจในเวียดนามช่วงต้นปี รวมทั้งปรับเป้ายอดขายในประเทศลงเล็กน้อย แต่ยังเชื่อว่าภาพรวมายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจาก core business และยังเตรียมออกสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายในเดือนหน้า รวมทั้งวางแผนในการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้กำไรเติบโตได้ตามเป้าแน่นอน

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ยังมีความกังวลผลประกอบการในประเทศเวียดนามจะลดลง สาเหตุมาจากความล่าช้าการติดตั้งไลน์ผลิตใหม่ของเบนโตะเฟสที่ 2 มี 3 ไลน์การผลิตนั้น โดยไลน์การผลิตที่ 1 ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วในช่วงที่ผ่านมา ส่วนไลน์การผลิตที่เหลือใกล้ติดตั้งเสร็จแล้ว โดยการติดตั้งล่าช้าประมาณ 1-2 เดือนเนื่องจากช่วงต้นปีเศรษฐกิจเวียดนามไม่ค่อยดี อาทิ เหตุการณ์แบงก์ล้ม ปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงตัดสินใจชะลอแผนไปเล็กน้อยเพื่อรอดูสถานการณ์ ต่อมาเมื่อพบว่าปัญหาไม่ได้กระทบกับบริษัทมากจึงเร่งเดินหน้าตามแผน ซึ่งการขยายไลน์ทั้งหมดจะแล้วเสร็จครบถ้วนภายในเดือนพ.ย.66 แน่นอน

โดยจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจในเวียดนามช่วงต้นปี ทำให้บริษัทปรับเป้าหมายรายได้จากการขายในเวียดนามในปี 66 จากเดิมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ลดลงมาที่ 800 ล้านบาท แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/66 และไตรมาส 2/66 จะยังคงเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ยังไม่ได้เติบโตเท่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้และช่วงนี้เศรษฐกิจเวียดนามยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แต่เมื่อเปรียบเทียบทั้งจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนยังคงมีรายได้เติบโตเป็น 2 หลัก นอกจากนี้จากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 310.68 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ากำไรทั้งปี 66 จะเติบโตกว่าปีที่แล้วมากกว่า 100 ล้านบาท

“นอกจากนี้หลังจากบริษัทเดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุน หรือเรียกว่า โรดโชว์ที่ต่างประเทศได้เสียงตอบรับค่อนข้างดี โดยล่าสุดเดินสายจัดโรดโชว์ที่ประเทศฮ่องกง ซึ่งนักลงทุนต่างชาติค่อนข้างสนใจและเป็นโอกาสดีที่ราคาหุ้นย่อลงมามาก เป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะโน้มน้าวรายใหญ่เข้าเก็บหุ้น SNNP เข้าพอร์ต รวมทั้งยังมีโอกาสอีกมากให้นักลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุน” นายวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button