BBL รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มโดดเด่น

BBL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 11,349.91 ล้านบาท เติบโต 48.23% จากไตรมาส 3/2565 และเพิ่มขึ้น 0.50% จากไตรมาส 2/2566


คุณค่าบริษัท

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อตามประเภทธุรกิจ ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 1.อุตสาหกรรมการผลิตและการพาณิชย์ 29.3% 2.การสาธารณูปโภคและบริการ 18.2% 3.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 12.6% 3.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 7.2% 5.การเกษตรและเหมืองแร่ 3.2% 6.ธุรกิจอื่น ๆ 29.5%

BBL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 11,349.91 ล้านบาท เติบโต 48.23% จากไตรมาส 3/2565 และเพิ่มขึ้น 0.50% จากไตรมาส 2/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 11,293.52 ล้านบาท กำไรในไตรมาส 3 นี้สูงกว่าตลาดคาดการณ์ 8% จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3/2566 เป็นหลัก กำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากไตรมาส 3/2565 ได้แรงหนุนจาก 1.อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) ที่เพิ่มขึ้นโดดเด่นถึง 0.60% จากไตรมาส 3/2565 จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานที่เพิ่มขึ้น 2.อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง 1% จากไตรมาส 3/2565 และ 3.ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ลดลง 0.13% จากไตรมาส 3/2565

กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรอง (PPOP) ไตรมาส 3/2666 อยู่ที่ 2.33 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 2/2566 และ 20% จากไตรมาส 3/2565 สินเชื่อรวมไตรมาส 3/2566 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% จากไตรมาส 2/2566 มาที่ 2.72 ล้านล้านบาท จากสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อผ่านเครือข่ายต่างประเทศของ BBL ด้าน NIM เพิ่มขึ้นโดดเด่น 0.21% จากไตรมาส 2/2566 และ 0.60% จากไตรมาส 3/2565 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานที่สูงขึ้น ด้านรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (non-NII) ในไตรมาส 3/2566 ลดลง 23% จากไตรมาส 2/2566 และ 16% จากไตรมาส 3/2565 มาที่ 8.4 พันล้านบาท จากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่ลดลงซึ่งถูกวัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรหรือขาดทุน ด้านอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ในไตรมาส 3/2566 ดีขึ้น โดยลดลงเหลือ 45% จาก 47% ในไตรมาส 2/2566 และ 46% ในไตรมาส 3/2565 จากผลกระทบตามฤดูกาลและการประหยัดต่อขนาดที่ดีขึ้น

อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ของ BBL ไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 3.5% ทรงตัวเมื่อเทียบไตรมาส 2/2566 และลดลง 0.30% จากไตรมาส 3/2565 NPL ratio ไตรมาส 3/2566 ต่ำกว่าที่ บล.กสิกรไทย คาดไว้ที่ 3.6% เล็กน้อย BBL คงระดับ credit cost ที่ 1.32% ในไตรมาส 3/2566 และส่งผลให้อัตราเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 283% ในไตรมาส 3/2566 จาก 276% ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มธนาคาร

ข้อมูลจาก Refinitiv Consensus สำหรับ BBL ระบุว่า ประมาณการรายได้รวมปี 2566 ที่ 164,851.56 ล้านบาท และประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 42,239.78 ล้านบาท โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 194.00 บาท จาก 20 โบรกเกอร์

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า จากรายได้ดอกเบี้ยรับที่ปรับขึ้นได้ดี ทั้งจาก NIM ที่สูงกว่าคาด และความสามารถในการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่โดดเด่น อีกทั้งมองว่าแนวโน้มผลดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 จะโตเมื่อเทียบไตรมาส 4/2565 จึงมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2566/2567 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 12.7% เพื่อสะท้อนผลดำเนินงานที่ยังแข็งแรง คาดทั้งปี 2566 BBL จะมีกำไรสุทธิ 41,856 ล้านบาท โต 42.8% จากปี 2565 และในปี 2567 โตต่อ 5.8% จากปี 2566

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น BBL ราคาปัจจุบัน (ราคาปิดวันที่ 24 ต.ค. 2566 ที่ 161.50 บาท) ซื้อขายกันที่ P/E 8.41 เท่า สูงกว่า P/E กลุ่มธนาคารที่ 8.05 เท่า ส่วนค่า P/BV ของหุ้น BBL อยู่ที่ 0.59 เท่า ต่ำกว่า P/BV กลุ่มธนาคารที่ 0.66 เท่า

Back to top button