“ดาวโจนส์” ดีดบวกเกือบ 100 จุด อานิสงส์บอนด์ยีลด์ร่วง  

“ดาวโจนส์” ดีดบวกเกือบ 100 จุด รับแรงหนุนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 4.4% ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี แตะระดับ 4.524% ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(22 พ.ย.66)ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเกือบ 100 จุด โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดย ณ เวลา 22.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,178.25 จุด บวก 89.96 จุด หรือ 0.26%

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 4.4% ในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีแตะระดับ 4.524% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.

ทั้งนี้ การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

ส่วนนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.2567 แม้มีการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดวานนี้

ทั้งนี้ รายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น และไม่มีการบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567 และมี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.2567

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และเปิดการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์

Back to top button