“ทรัมป์” กดดันไทย–กัมพูชา เคารพข้อตกลงหยุดยิง ขู่เอาผิดผู้ฝ่าฝืน หวังยุติความรุนแรงชายแดน

ทำเนียบขาวย้ำทรัมป์คาดหวังไทย–กัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง พร้อมขู่ดำเนินการผู้เกี่ยวข้อง หวังยุติความรุนแรงตามแนวชายแดน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังตึงเครียด


ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงข้อมูล สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คาดหวังให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เคารพและปฏิบัติตามพันธกรณีที่ได้ให้ไว้จากการลงนามในข้อตกลงอย่างครบถ้วน พร้อมย้ำว่า ประธานาธิบดีจะดำเนินการตามความจำเป็นกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยุติความรุนแรงและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อค่ำวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา และโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า ผู้นำทั้งสองประเทศตกลงที่จะหยุดยิงและกลับสู่ข้อตกลงสันติภาพ โดยระบุด้วยว่า เหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นอุบัติเหตุ แต่ฝ่ายไทยตอบโต้กลับอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย

อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันตรงกันว่า ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ได้มีการพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงแต่อย่างใด โดยเป็นเพียงการหารือในเชิงหลักการ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการพูดคุยในรายละเอียดต่อไป

นายอนุทินให้คำมั่นเมื่อวันเสาร์ว่า ไทยจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีอันตรายหรือภัยคุกคามใด ๆ ต่ออธิปไตยและประชาชนไทย พร้อมโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ผมขอชี้แจงให้ชัดเจน การกระทำของเราในเช้าวันนี้ได้พูดแทนทุกอย่างแล้ว” ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงทั้งหมด

ด้านนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุด ยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ทุกรูปแบบ และงดเว้นการปฏิบัติการทางทหารเพิ่มเติม รวมถึงการเคลื่อนกำลังของหน่วยติดอาวุธ โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม พร้อมระบุว่า ได้ร้องขอให้มีการส่งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ซึ่งนำโดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซีย ลงพื้นที่ชายแดน และรัฐบาลสหรัฐจะสนับสนุนด้านขีดความสามารถในการติดตามสถานการณ์ผ่านดาวเทียม เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 16 ธันวาคมนี้

ขณะที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า ยินดีต้อนรับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และพร้อมยุติการสู้รบตั้งแต่เย็นวันเสาร์เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงข้อเสนอของมาเลเซีย นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า “ยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ เกี่ยวกับการหยุดยั้งสิ่งใดทั้งสิ้น” ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุว่า ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน แต่การหยุดยิงจำเป็นต้องผ่านกระบวนการเจรจาก่อน เนื่องจากไม่สามารถประกาศหยุดยิงได้ในขณะที่การสู้รบยังคงดำเนินอยู่

รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ไทยและกัมพูชายังคงมีการแลกเปลี่ยนการยิงอาวุธหนักในหลายจุดตลอดแนวชายแดนยาว 817 กิโลเมตร ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นหนึ่งในเหตุปะทะที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่การสู้รบเป็นเวลา 5 วันเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยสถานการณ์ยังคงตึงเครียดต่อเนื่องถึงวันที่ 14 ธันวาคม แม้จะมีความพยายามจากนานาชาติในการผลักดันให้เกิดการยุติความรุนแรงก็ตาม

Back to top button