
สภาพัฒน์ มั่นใจ GDP ปี 59 โต 3-4% พร้อมแนะจับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง
สภาพัฒน์ มั่นใจ GDP ปี 59 โต 3-4% พร้อมแนะจับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง
นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เปิดเผยว่า ปี 2559 เศรษฐกิจไทยคาดจะขยายตัวได้ราว 3-4% ซึ่งจะเป็นการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปี 2558 อย่างแน่นอน โดยในปี 58 ที่ผ่านมา ตัวเลขอย่างเป็นทางการใน 3 ไตรมาสพบว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.9% และทั้งปีก็มีโอกาสจะใกล้เคียงกับระดับนี้ แต่อย่างไรก็ดี ต้องรอการประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในเดือนก.พ.59
สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญในปี 59 ประกอบด้วย 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.เศรษฐกิจโลก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ประเมินว่าในปีนี้เศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้ 3.6% ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตได้ 2.7% และเศรษฐกิจจีน เติบโต 6.7% ซึ่งหากสถานการณ์จริงไม่เป็นไปตามที่ IMF คาดการณ์ไว้ ก็จะถือว่าเศรษฐกิจโลกปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญปัจจัยหนึ่ง 2.ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งหากแนวโน้มราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ก็จะส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจได้ และ 3.ปัญหาภัยแล้งและสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะมีผลต่อราคาสินค้าเกษตร
นายปรเมธี กล่าวด้วยว่า สำหรับในด้านการบริโภคและการใช้จ่ายของประชาชนนั้น เชื่อว่าในปีนี้ความมั่นใจของผู้บริโภคในการออกมาจับจ่ายใช้สอยจะมีมากขึ้น และน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อที่จะกลับมาเป็นบวกได้ 1% จากที่ในปี 58 เงินเฟ้อติดลบ 0.9% พร้อมมองว่า สิ่งที่ต้องการเห็นในปีนี้คือการลงทุนกลับเข้ามามากขึ้น โดยมองว่าหัวใจสำคัญคือการลงทุนของภาครัฐเองที่จะเป็นตัวนำให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนตามมา
ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงเป้าหมายสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2559 โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในปีนี้ราว 32 ล้านคน คิดเป็นรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมรายได้ของทั้งนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและในประเทศเองแล้วคาดว่าจะอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในปี 2558 ที่มีรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 2.2 ล้านล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 ได้ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านล้านบาท
รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า เป้าหมายด้านการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้คือ 1.สร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เน้นคุณภาพเป็นหลัก และยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 2.เป็นการกระจายรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำ และ 3.ปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิด สร้างความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเองให้ดูแลรักษาภูมิลำเนา ตลอดจนรักและเข้าใจประเทศไทย