TKN ร่วง 7% โบรกหั่นกำไร-เป้าเหลือ 10 บ. กังวลต้นทุนสาหร่ายพุ่ง

TKN ร่วง 7% โบรกหั่นกำไร-ราคาเป้าหมายเหลือ 10 บาท จากเดิม 11.50 บาท กังวลต้นทุนสาหร่ายพุ่ง กระทบผลงานปี 68-69 โดยปรับลดกำไรลงราว 20-21%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(5 ก.พ.67) บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ณ เวลา 11:49 น. อยู่ที่ระดับ 10.50 บาท ลบ 0.80 บาท หรือ 7.08% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 179.95 ล้านบาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 179.95 ล้านบาท

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(5 ก.พ.67) ว่า TKN โบรกปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย” จาก “ซื้อ” หุ้น TKN เนื่องจาก 1. มีความกังวลด้านต้นทุนสาหร่ายที่เพิ่มขึ้นสำหรับการดำเนินงานในปี 68 ราคาสัญญานี้น่าจะได้ข้อสรุปในเดือนนี้ 2. เราปรับลดกำไรลงอย่างมากราว 20-21% ในปี 68-69 ขณะที่ยังคงประมาณการปี 67 เช่นเดิม โดยราคาเป้าหมายของเรา (ปีฐาน 67) ลดลงเหลือ 10 บาท (จาก 11.5 บาท) และ 3. หลังราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 17% YTD ตอนนี้มองว่า TKN มูลค่าแพง ซื้อขายที่ PE ที่ 20 เท่าในปี 67 เทียบกับแนวโน้มการเติบโต EPS ที่ชะลอลงที่ +9 ถึง -6% ในปี 67-68

ขณะที่ความกังวลด้านต้นทุน สาหร่ายทะเลคิดเป็น 35% ของ COGS ก่อนหน้านี้คาดว่าต้นทุนจะปรับตัวขึ้น 12% ในปี 67 ซึ่งเกิดจากการลงนามในสัญญาเมื่อต้นปี 66 ด้วยผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อตั้งแต่ปี 65 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นระดับที่บริหารจัดการได้สำหรับ TKN อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน TKN คาดว่าต้นทุนสาหร่ายในสัญญาซื้อใหม่ที่มีกำหนดลงนามในเดือนหน้าสำหรับการดำเนินงานในปี 68 จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของเรา และเป็นเพราะผลผลิตลดลงอันเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนิโญที่ทำให้น้ำที่มีสารอาหารน้อยลงสำหรับฟาร์มสาหร่ายทะเล

ทั้งนี้ TKN ได้ปรับเพิ่มราคาขายในไตรมาส 4/66 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 12% ในปี 67 แต่ไม่มีแผนที่จะปรับขึ้นเพื่อครอบคลุมต้นทุนที่สูงขึ้นในปี 68 ทั้งหมด เนื่องจากกังวลวาจะกระทบต่อดีมานด์ แต่เราคาดว่าต้นทุนสาหร่ายทะเลจะลดลงบ้างในปี 69

อย่างไรก็ตาม TKN มีการดำเนินงานที่ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นการส่งออกใหม่ คาดว่ายอดขายจะเติบโต 13% ,13% ,11% ในปี 67-69 จากฐานที่สูงที่ 21%, 22% ในปี 65-66 การส่งออกคิดเป็น 63% ของยอดขายในปี 66 โดยยอดขายจากจีนคิดเป็น 25%, สหรัฐฯ 11%, อินโดนีเซีย 9% และตลาดขนาดเล็กอื่นๆ 18% เราคาดยอดส่งออกจะเติบโต 13% ต่อปี และยอดขายในประเทศเติบโต 10% ต่อปี ในปี 67-69

ขณะที่ตลาดส่งออกส่วนใหญ่ยังคงเติบโต (Exhibit 7) แม้ว่าจะชะลอตัวลงจากฐานที่สูงก็ตาม TKN คาดว่าจะจำหน่ายใน Costco อีก 2 แห่งในสหรัฐอเมริกาในปีนี้จาก 4 แห่ง ในปัจจุบัน ผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ในอินโดนีเซียดูเหมือนว่าจะไปได้ดี โดยมียอดขายสะดุดเพียงสองเดือนในช่วงเปลี่ยนผู้จัดจำหน่าย เราคาดว่ายอดขายในจีนจะเติบโต 14/12% ในปี 67-68 จากฐานที่สูงอยู่แล้ว

แม้ว่าราคาวัตถุดิบจะผันผวน แต่เรามองว่า TKN เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจได้ดี หลังจากเผชิญกับปัญหาใหญ่ในปี 60-64 จากต้นทุนสาหร่ายที่เพิ่มขึ้น สินค้าลอกเลียนแบบจากจีน และการล็อกดาวน์ทั่วโลก บริษัทฯ ฟื้นตัวได้ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ทุนสาหร่ายจะสูงขึ้น แต่ TKN น่าจะจะยังคงเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้สูง โดยมี ROE ที่ 31% และ ROIC ที่ 38% ในปี 68 นอกจากนี้ยังมีระดับหนี้ที่ต่ำ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ -0.1 เท่า

Back to top button