วิตกศก.โลกชะลอตัวกดดาวโจนส์ปิดร่วง 364 จุด!
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ และกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (13 ม.ค.) ที่ 16,151.41 จุด ร่วงลง 364.81 จุด หรือ -2.21% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,526.07 จุด ดิ่งลง 159.85 จุด หรือ -3.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,890.28 จุด ลดลง 48.40 จุด หรือ -2.50%
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ โดยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของจีนระบุว่า ยอดส่งออกของจีนในปี 2558 ลดลง 1.8% เทียบรายปี สู่ระดับ 14.14 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดการนำเข้าร่วงลง 13.2% สู่ระดับ 10.45 ล้านล้านหยวน
ส่วนข้อมูลด้านสหรัฐนั้น รายงานสรุปภาวะของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายเขตของสหรัฐชะลอตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค ขณะที่ภูมิภาคบางแห่งที่ต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมน้ำมันนั้น ได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพและกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค โดยหุ้น AbbVie Inc และหุ้น Celgene Corp ดิ่งลงไปกว่า 5.6% ขณะที่หุ้น Express Scripts ร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี
หุ้น Amazon ร่วงลง 5.8% ซึ่งเป็นหุ้นที่ร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 และ NASDAQ ขณะที่หุ้น BorgWarner Inc ดิ่งลง 9.5% หลังจากบริษัทปรับลดยอดขายปี 2559, หุ้น Netflix ร่วงลง 8.6% ขณะที่หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ และหุ้นเดลฟี ออโตโมทีฟ ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 5% ส่วนหุ้นโฮม ดีโปท์ ร่วงลง 4.8%
ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวปาฐกถาของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายคนในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ หลังปรับขึ้นครั้งแรกรอบเกือบ 10 ปีในเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.