D โกยรายได้ปี 68 แตะ 246 ล้านบาท รับงานเทรดดิ้งพุ่ง 29% อานิสงส์โปรเจกต์ รพ.รัฐขยายตัวสูง

นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ผู้ให้บริการทันตกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม  2568  กลุ่มบริษัท D มีรายได้รวมจำนวน  245.7  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลกำไรสุทธิ จำนวน 16.1 ล้านบาท สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการให้บริการ 170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1% และรายได้จากการขาย 74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า

ด้าน นายพรศักดิ์ กล่าวว่า รายได้ไตรมาสแรกปีนี้ที่เพิ่มสูงกว่าในไตรมาสแรกปีก่อน เพราะมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้ง การขายวัสดุ และอุปกรณ์ทันตกรรม เช่น หัวกรอ รากฟันเทียม เก้าอี้ทำฟัน เครื่อง x-ray ให้แก่ห้องปฏิบัติการทันตกรรม และคลินิกทันตแพทย์ รวมถึงการรับประมูลงานโครงการจากคณะทันตกรรมของมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกปีนี้มีงานโปรเจคจากโรงพยาบาลรัฐบาลมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น ทำให้มีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้นกว่า 8 ล้านบาท ธุรกิจหลักของกลุ่ม D เป็นการให้บริการด้านทันตกรรม ในไตรมาส 1 ปี 2568 มีลูกค้าจำนวนเฉลี่ย visit volume 21,338 ครั้ง รายได้หลักมาจากลูกค้าชาวต่างชาติ จำนวน 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 11 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 ที่มีรายได้จากต่างชาติจำนวน 105 ล้านบาท

ทว่า รายได้จากลูกค้าคนไทย มีจำนวน 54.8 ล้านบาท ลดลง 15% ซึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อในประเทศที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กลุ่ม D มีลูกค้า visit volume ในไตรมาสแรกปีนี้โดยเฉลี่ยประมาณ  21,338 ครั้ง ลูกค้าต่างชาติ โตขึ้น 10% จากไตรมาสแรกปีก่อน ด้วยการให้บริการตามมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ามาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

โดย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา ที่เดินทางเข้ามาในไทยเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness tourism) โดยเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริการและการรักษาทันตกรรมของกลุ่ม บริษัทฯ

ดังนั้น ส่วนของโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH) ที่เน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยมีรายได้สูง ผู้บริหารชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (Expat) และกลุ่มนักท่องเที่ยว (Tourist) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ในไตรมาส 1 ปี 2568 สร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัท จำนวน 41.1 ล้าน มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติสูงถึง 76%