TISCO ขยายสินเชื่อ – ปันผลสูง

TISCO โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 1.สินเชื่อรายย่อย 67.6% 2.สินเชื่อธุรกิจ 26.9% 3.สินเชื่อธุรกิจ SME 5.5%


คุณค่าบริษัท

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 1.สินเชื่อรายย่อย 67.6% 2.สินเชื่อธุรกิจ 26.9% 3.สินเชื่อธุรกิจ SME 5.5% จากสินเชื่อรายย่อย 67.6% จำแนกต่อได้เป็น 1.สินเชื่อเช่าซื้อ 42.9% 2.สินเชื่อจำนำทะเบียน 18.6% 3.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 3% 4.สินเชื่อรายย่อยอื่น ๆ 3.2%

TISCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 มีกำไรสุทธิ 1,643.38 ล้านบาท ลดลง 5.17% จากไตรมาส 1/2567 และลดลง 3.43% จากไตรมาส 4/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 1,701.81 ล้านบาท กำไรไตรมาส 1 ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ โดยปัจจัยกดดันหลักมาจาก 1.รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่ลดลง 2.1% จากไตรมาส 4/2567 หลังส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ลดลงเหลือ 4.8% จาก 4.9% ในไตรมาส 4/2567 เพราะบริษัทปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงตามดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง และยังมีผลจากการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ขณะที่สินเชื่อรวมลดลง 0.4% จากไตรมาส 4/2567 ตามนโยบายเพิ่มความระมัดระวังในการขยายสินเชื่อ

2.รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ลดลง 3.3% จากไตรมาส 4/2567 จากฐานที่สูง ที่มีบันทึกค่าธรรมเนียมของธุรกิจจัดการกองทุนรวมเข้ามา และรายได้เกี่ยวกับสินเชื่อที่ลดลงตามขนาดของสินเชื่อรวม แต่บางส่วนชดเชยด้วยกำไรจากเงินลงทุนและรายได้เงินปันผลที่สูงขึ้น 3.การตั้งสำรองสูงขึ้น 14.4% จากไตรมาส 4/2567 คิดเป็น Credit Cost ที่ 0.7% เพิ่มขึ้นจาก 0.6% ในไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามนโยบายของบริษัทที่ต้องการเพิ่มอัตราเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) เพื่อรองรับความเสี่ยงของพอร์ตที่สูงขึ้นตามการรุกขยายธุรกิจที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง (High Yield) แต่คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยลูกหนี้ Stage 2 และ Stage 3 (NPL) ทรงตัวที่ 7.9% และ 2.4% ใกล้เคียงกับไตรมาส 4/2567

TISCO พยายามระมัดระวังมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อในทุกพื้นที่ และระบุอีกว่าเป้าการเติบโตของสินเชื่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญในสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะเดียวกันเนื่องจากเห็นการก่อตัวของ NPL ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ TISCO จึงหยุดการขยายสาขาในไตรมาส 1/2568 และลดอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ของพอร์ตสินเชื่อเพื่อควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ ดังนั้น บล.กสิกรไทย จึงเชื่อว่าการเติบโตของสินเชื่อของ TISCO น่าจะทรงตัวหรือติดลบในปี 2568-2569

ข้อมูลจาก LSEG Consensus สำหรับ TISCO ระบุว่า ประมาณการรายได้รวมปี 2568 ที่ 19,259.54 ล้านบาท และประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 6,483.31 ล้านบาท โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 98 บาท จาก 17 โบรกเกอร์

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 จะลดลงต่อ ทั้งเมื่อเทียบไตรมาส 2/2567 และเทียบไตรมาส 1/2568 จากผลของ NIM ที่ลดลง แต่คาดจะไม่ลดลงมากเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ เพราะมีสัดส่วนสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยคงที่สูงราว 61.5% ส่วนปัจจัยกดดันจะยังเป็นแนวโน้ม Credit Cost ที่ทยอยปรับขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อกลุ่ม High Yield ยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นจนชดเชยปัจจัยกดดันต่าง ๆ ได้ ทำให้คาดว่า TISCO จะมีกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 6,934 ล้านบาท ทรงตัวจากปี 2567

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น TISCO ราคาปัจจุบัน (ราคาปิดวันที่ 6 พ.ค. 2568 ที่ 97.75 บาท) เทรดที่ P/E 11.34 เท่า สูงกว่า P/E กลุ่มธนาคารที่ 7.45 เท่า ส่วนค่า P/BV ของหุ้น TISCO อยู่ที่ 1.82 เท่า สูงกว่า P/BV กลุ่มธนาคารที่ 0.65 เท่า

Back to top button