
MEDEZE แตกพันธุ์ธุรกิจ
ไม่ทำให้คอหุ้นสายสะดือ...อุ๊ย สายสเต็มเซลล์ผิดหวัง เมื่อ MEDEZE ประเดิมเปิดงบไตรมาสแรกปี 2568 โชว์กำไรสุทธิ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
ไม่ทำให้คอหุ้นสายสะดือ…อุ๊ย สายสเต็มเซลล์ผิดหวัง เมื่อบริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE ประเดิมเปิดงบไตรมาสแรกปี 2568 โชว์กำไรสุทธิ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 58.91 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 205.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 183.57 ล้านบาท
สาเหตุมาจากภาพรวมในการจัดเก็บสเต็มเซลล์ที่ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บสำหรับเด็กเกิดใหม่ อีกทั้งมีการเพิ่มทีมขาย พันธมิตรทางการค้าที่เป็นตัวแทนใหบริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ประกอบกับมีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัดเก็บเซลล์รากผมที่เริ่มมีรายได้เข้ามาในไตรมาส 1/2568
โดยในไตรมาสนี้มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 33% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่อยู่ที่ 31%
ถือเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่ MEDEZE ทำผลงานได้โดดเด่น…
ไม่เพียงแค่โชว์งบสวยเท่านั้น MEDEZE ยังจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ…เสิร์ฟสตอรี่บวก ๆ จากการเข้าไปลงทุนในประเทศสิงคโปร์ ผ่านบริษัทลูกที่ชื่อ Medeze Treasury Pte. Ltd. (MT) โดยจะเข้าลงทุนใน Cordlife Group Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange : SGX) โดยใช้วิธีการทำคำเสนอซื้อบางส่วน (Partial Offer) จากผู้ถือหุ้นของ Cordlife Group Limited ประมาณ 25.63 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ที่ราคาหุ้นละ 0.25 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 165 ล้านบาท
ดูผิวเผินเหมือนเป็นการลงทุนขยายธุรกิจทั่ว ๆ ไป…แต่ถ้าเจาะให้ลึกลงไป จะเห็นว่าดีลนี้มีดีกว่าที่คิดนะ…
เพราะถ้าไปส่องโปรไฟล์ Cordlife Group Limited ดีกรีไม่ธรรมดา…เป็นกลุ่มบริษัทด้านสุขภาพที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2544 และจดทะเบียนในกระดาน SGX ตั้งแต่ปี 2555 เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำด้านบริการธนาคารเลือดจากสายสะดือและเยื่อบุสายสะดือ โดยเป็นกลุ่มบริษัทเจ้าของเครือข่ายธนาคารเลือดจากสายสะดือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีประสบการณ์ด้านการปลูกถ่ายอย่างกว้างขวาง โดยได้ประมวลผลและจัดเก็บตัวอย่างเลือดจากสายสะดือ, เยื่อบุสายสะดือ, เนื้อเยื่อสายสะดือ และเซลล์ต้นกำเนิดจากรกมากกว่า 400,000 ตัวอย่าง มีโรงงานแปรรูปและจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดครบวงจรใน 6 ตลาดหลัก ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ด้านผลประกอบการก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่…ปี 2564 มีรายได้รวม 56.7 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ กำไรสุทธิ 6.1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ปี 2565 รายได้รวม 55.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ กำไรสุทธิ 4.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ปี 2566 มีรายได้รวม 55.7 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ กำไรสุทธิ 3.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ขณะที่ปี 2567 มีรายได้ 27.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 707.5 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 11.7 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 298.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 42% ในปี 2567 มีสินทรัพย์รวม 118.7 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 3,015.1 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567
จะเห็นว่า Cordlife Group Limited โคตรใหญ่เลย ทำให้แม้จะถือหุ้นแค่ 10% แต่เป็นก้าวสำคัญของ MEDEZE เลยก็ว่าได้…
ซึ่งสิ่งที่ MEDEZE จะได้จากดีลนี้ อันดับแรกเป็นการรับรู้รายได้และกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น ที่จะมาช่วยหนุนงบให้เติบโตมากขึ้น
ถัดมาเป็นการปลดล็อกจากหลักเกณฑ์ของแพทยสภา ช่วยขยายฐานลูกค้าไปทั่วตลาดเอเชีย
แต่ไฮไลต์คงเป็นเรื่องของโนว์ฮาว ความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาด้านสเต็มเซลล์ รวมถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ที่จะนำไปต่อยอดสร้างการเติบโตในอนาคตมากกว่า
งั้นการแตกพันธุ์ธุรกิจของ MEDEZE ก็ไม่ใช่แค่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวน่ะสิ แต่น่าจะได้นกทั้งฝูงเสียมากกว่า…ซึ่งคงช่วยให้จากที่เห็น MEDEZE เติบโตดีอยู่แล้ว…ก็น่าจะโตแบบติดเทอร์โบไปเลยละมั้ง..??
แล้วเดาว่า MEDEZE คงไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอก…หลังจากนี้น่าจะเห็นความเคลื่อนไหวในเชิงธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
ดู ๆ ไป MEDEZE เป็นหุ้นที่ครบเครื่องนะ เพราะงบก็ปัง…สตอรี่ก็เด่น แต่ทำไม๊ทำไมราคาหุ้นยังต่ำจองละเนี่ย…
บ่เข้าใจ๋จริง ๆ ให้ตายเถอะโรบิ้น.!!
…อิ อิ อิ…