“สุทธิชัย” ชี้ SET ผันผวน ชู 17 หุ้น “กำไรโต-ปันผลสูง” รับความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว

“สุทธิชัย คุ้มวรชัย” ชี้ตลาดหุ้นไทยยังเจอแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก แนะลงทุน 3 ธีมหุ้นกำไรเด่น-ปันผลสูง-ESG รับความเสี่ยงช่วงตลาดผันผวน


นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ INVX เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์ยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะกรณีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ โดยมูดี้ส์ ส่งผลให้ดัชนีฟิวเจอร์ส S&P 500 ปรับตัวลดลงราว 0.7% และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยในเช้าวันเดียวกัน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีรายงานว่าจะมีการออกหนังสือชี้แจงอัตราภาษีใหม่แก่ประเทศคู่ค้า หากอัตราภาษีดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับสูง อาจสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อตลาดในระยะถัดไป

สำหรับตลาดหุ้นไทย แม้ก่อนหน้านี้จะได้แรงหนุนจากการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ แต่ภาพรวมดัชนียังอ่อนตัวลงราว 1.2-1.3% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่ตลาดหุ้นประเทศเพื่อนบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 1-2% สะท้อนถึงความเปราะบางของโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่แข็งแรงเพียงพอ

ด้านเศรษฐกิจพื้นฐาน นักลงทุนยังคงกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงาน GDP ไตรมาส 1/2568 ขยายตัว 3.1% ซึ่งแม้จะอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ แต่แนวโน้มครึ่งปีหลังยังมีความเสี่ยงต่อการชะลอตัว หากไม่มีมาตรการกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน คาดการณ์การเติบโตของ GDP ทั้งปีถูกปรับลดลงเหลือต่ำกว่า 2% สะท้อนถึงแรงส่งทางเศรษฐกิจที่อ่อนแรง

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ 3 ธีมหลัก ได้แก่ 1) กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะมีกำไรโดดเด่นในไตรมาส 2 เช่น ADVANC, TRUE, BTG, CPF และ CPALL 2) กลุ่มหุ้นในดัชนี Thai ESGX โดย SET50 เลือก ADVANC, BDMS, CPALL และ PTT ส่วน SET100 แนะนำ BCH, BTG และ AP และ 3) กลุ่มหุ้นที่มีเงินปันผลสูงกว่า 5% ได้แก่ PTT, KTB, BBL และ HMPRO

สำหรับนักลงทุนที่มีความสามารถในการรับความเสี่ยงสูง INVX แนะนำให้ติดตามจังหวะลงทุนในช่วงที่ดัชนี SET ปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวรับ 1,185 จุด โดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,150 จุด หุ้นเด่นที่น่าจับตาคือกลุ่มที่มี Valuation ต่ำกว่า –2SD แต่ยังคงมีกำไรเติบโตดี เช่น GULF, MTC, CBG, AMATA และ BJC ซึ่งเหมาะกับการลงทุนระยะกลางถึงยาวในสภาพตลาดที่มีความผันผวน

Back to top button