หุ้นยุโรปปิดบวก! รับแรงหนุนหุ้นพลังงาน-โทรคมแรง ขานรับงบแกร่ง-ดอกเบี้ยจีนลด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก! ดีดตัวขึ้นใกล้จุดสูงสุดรอบ 9 สัปดาห์ หนุนโดยหุ้นพลังงานสะอาด-โทรคมนาคม ขานรับดอกเบี้ยจีนลด และผลประกอบการแกร่ง


ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกแข็งแกร่งเมื่อวันอังคาร (20 พ.ค.68) โดยดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 554.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.04 จุด หรือ +0.73% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ นับจากระดับ 555 จุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค.68 ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและโทรคมนาคม ขณะผลประกอบการบางบริษัทยังช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน

  • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 554.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.04 จุด หรือ +0.73%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,942.42 จุด เพิ่มขึ้น 58.79 จุด หรือ +0.75%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 24,036.11 จุด เพิ่มขึ้น 101.13 จุด หรือ +0.42%
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษ ปิดที่ 8,781.12 จุด เพิ่มขึ้น 81.81 จุด หรือ +0.94%

โดยกลุ่มสาธารณูปโภคนำตลาดพุ่ง 1.8% โดยหุ้น EDP Renovaveis จากโปรตุเกส บวก 4.1% หลังดอยซ์แบงก์ ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ขณะ Oersted พุ่ง 14.5% และ Vestas Wind บวก 4.8% หลังรัฐบาลสหรัฐ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกเลิกคำสั่งเบรกโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งนิวยอร์ก

ส่วนกลุ่มโทรคมนาคมบวก 1.7% นำโดย Vodafone พุ่ง 7.3% หลังบริษัทคาดกระแสเงินสดปีนี้เติบโต ขณะที่หุ้นสินค้าหรูปรับตัวขึ้นตามความหวังบริโภคจีน หุ้น LVMH บวก 1.3%, Burberry +3.7%, และ Kering +4% ดันดัชนีกลุ่มสินค้าหรูขึ้น 0.3%

บรรยากาศการลงทุนยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เพื่อประคองเศรษฐกิจที่ยังเผชิญแรงเสียดทานจากสงครามการค้ากับสหรัฐ

ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปและอังกฤษประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ โดยไม่รอท่าทีจากฝั่งวอชิงตัน สะท้อนความไม่แน่นอนของการเจรจาสันติภาพยูเครน-รัสเซีย ในอนาคต

นักลงทุนยังเฝ้ารอพัฒนาการด้านการค้าโลก โดยเฉพาะภาษีตอบโต้จากรัฐบาลทรัมป์ที่อาจเริ่มบังคับใช้อีกครั้งในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งอาจสั่นคลอนบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกอีกระลอก

Back to top button