ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้คดี “จำนำข้าว” 10,028 ล. เหตุละเลยตรวจสอบโครงการ

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากความเสียหายโครงการจำนำข้าว หลังละเลยไม่สั่งการตรวจสอบการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ด้านโบรกฯ มองว่ากรณีดังกล่าวอาจส่งแรงสั่นสะเทือนทางการเมือง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 พ.ค.68) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กระทรวงการคลัง เป็นเงินจำนวน 10,028,861,880.83 บาท จากความเสียหายที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งพบว่ามีการทุจริตหลายจุด

ภาพจาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศาลปกครอง

ศาลระบุว่า แม้นโยบายจำนำข้าวจะเป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรี แต่การดำเนินโครงการถือเป็นการกระทำทางปกครอง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงอาจมีความรับผิดในทางละเมิดได้ หากมีการละเว้นหรือเพิกเฉยอย่างมีนัยสำคัญ โดยในกรณีนี้ ศาลเห็นว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้รับรายงานการทุจริตและคำทักท้วงจากหน่วยงานตรวจสอบหลายแห่ง แต่กลับไม่สั่งการหรือตรวจสอบต่อเนื่อง จึงเข้าข่ายความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ ศาลได้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่เคยเรียกชดใช้มูลค่า 35,717 ล้านบาท เฉพาะในส่วนที่เกินกว่า 10,028 ล้านบาท พร้อมเพิกถอนคำสั่งอายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีในส่วนที่เกินจากจำนวนดังกล่าว และให้กันส่วนทรัพย์สินของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ภายใน 60 วัน

คดีนี้มีจุดเริ่มต้นจากคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ซึ่งอ้างอิงผลการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าเกิดความเสียหายจากการบริหารโครงการรับจำนำข้าว และเรียกให้นางสาวยิ่งลักษณ์ รับผิดชอบในวงเงินกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ก่อนที่นางสาวยิ่งลักษณ์ และนายอนุสรณ์ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง โดยระบุว่าคำสั่งทางปกครองดังกล่าวออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเมิดต่อสิทธิในการครอบครองทรัพย์สินของคู่สมรส

ก่อนที่ศาลปกครองกลางจะมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และกระทรวงการคลังได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดในเวลาต่อมา

ภาพจาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศาลปกครอง
  • ทนายยิ่งลักษณ์จ่อยื่นหลักฐานใหม่ บอกข้าว 18.9 ล้านตันขายหมดแล้ว

ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดว่า หากเปรียบเทียบคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดกับศาลชั้นต้น จะพบว่ามีส่วนหนึ่งที่ตรงกัน กล่าวคือ ตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 ซึ่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดในโครงการจำนำข้าว ปีการผลิต 2555/56 และ 2556/57 เป็นจำนวนเงิน 187,000 ล้านบาท โดยให้รับผิดชอบในอัตรา 20% หรือกว่า 35,000 ล้านบาท ในส่วนนี้ ทั้งสองศาลมีความเห็นตรงกันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ต้องรับผิด เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นผลจากการคำนวณการขาดทุนของทั้งสองโครงการ ไม่ใช่ความเสียหายที่เกิดจากการกระทำโดยตรง

อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดมีจุดที่แตกต่างจากศาลชั้นต้น โดยระบุให้นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดในส่วนของ ขั้นตอนการระบายข้าว ซึ่งศาลเห็นว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น

ทั้งนี้ ในประเด็นการรับผิดกว่า 1 หมื่นล้านบาทในขั้นตอนการระบายข้าวนั้น นายนรวิชญ์ชี้ว่า ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มีข้าวคงเหลือในโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 18.9 ล้านตัน โดยในคำสั่งของกระทรวงการคลังได้ระบุไว้ว่า หากภาครัฐสามารถขายข้าวดังกล่าวได้ในราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่คณะอนุปิดบัญชีของโครงการได้คำนวณไว้ ณ เวลานั้น ก็สามารถนำผลต่างราคาดังกล่าวมาหักลบกับจำนวนเงินที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบได้

“ปัจจุบัน ข้าวจำนวน 18.9 ล้านตัน เพิ่งขายหมดในรัฐบาลนี้ และมีบางช่วงขายได้กิโลกรัมละ 25 บาท เป็นมูลค่าประมาณ 250,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาหักถอนกับเงินจำนวนกว่าหมื่นล้านบาทได้ นายกยิ่งลักษณ์ก็อาจจะไม่ต้องชดใช้เลย” ทนายความของอดีตนายกหญิงคนที่ 28 ของไทย กล่าว

นายนรวิชญ์ ยังระบุเพิ่มเติมว่า ทนายพยายามจะยื่นหลักฐานดังกล่าวในคดีนี้แล้ว แต่กระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงได้สิ้นสุดลงไปก่อน ทำให้ศาลไม่รับพิจารณาหลักฐานใหม่ อย่างไรก็ดี ทีมทนายจะหารือกันต่อว่า จะสามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ได้หรือไม่ ภายใต้กรอบระยะเวลา 90 วันตามกฎหมาย โดยจะดำเนินการในส่วนนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อขอคืนความเป็นธรรมให้อดีตนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาว่าจะต้องชดใช้เงินจำนวน 10,028 ล้านบาทเมื่อใด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีต่อไป ผ่านกลไกของกระทรวงการคลังและกรมบังคับคดีตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด

  • “10,000 ล้าน…ชดใช้ทั้งชีวิตก็ไม่มีวันหมด” ยิ่งลักษณ์โพสต์หลังคำพิพากษา

เวลา 17:05 น. เพจเฟซบุ๊ก “Yingluck Shinawatra” ของอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นต่อคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยสรุปว่า คำตัดสินที่ให้ตนชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกว่า 10,000 ล้านบาท ถือเป็นการต้อง “รับผิดชอบกับหนี้ที่ไม่ได้ก่อ” ทั้งที่ศาลปกครองกลางเคยวินิจฉัยแล้วว่าไม่ต้องชดใช้ และตนเองไม่เคยเป็นจำเลยในคดีดังกล่าว

นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือชาวนา และผ่านกระบวนการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่การกระทำของตนเพียงคนเดียว พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาให้เกิดความเสียหาย และขั้นตอนการดำเนินโครงการอยู่ภายใต้ระบบราชการที่หัวหน้าฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงได้โดยตรง

“หนี้ 10,000 ล้านบาท ชดใช้ทั้งชีวิต ยังไงก็ไม่มีวันหมด” น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ข้าวคงเหลือ 18.9 ล้านตันในโกดัง ได้ถูกขายหมดในช่วงรัฐบาลหลังรัฐประหาร โดยบางส่วนขายในราคาต่ำ จนเกิดมูลค่าส่วนต่างนับแสนล้านบาท แต่กลับไม่มีผู้รับผิดชอบหรือการตรวจสอบอย่างชัดเจน

อดีตนายกหญิง ระบุทิ้งท้ายว่า การที่นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ ย่อมสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ประชาชนทั่วไปจะเผชิญกับการขาดหลักประกันในสิทธิขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกัน

  • บล.ฟิลลิป มองอาจส่งแรงสั่นสะเทือนการเมือง

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST ให้ความเห็นว่า คำตัดสินครั้งนี้อาจส่งแรงสั่นสะเทือนทางการเมือง โดยเฉพาะต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล และบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาคนสำคัญ

ทั้งนี้ ควรจับตาการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งมีกำหนดเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568 โดยมองว่า ตลาดอาจเริ่มให้น้ำหนักกับปัจจัยการเมืองภายในเพิ่มขึ้นในระยะสั้น

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ หรือใช้แนวทาง Selective Stock โดยหุ้นเด่นยังรวมถึง TOP, BTG, MINT, KTB, SCB, CPF และ GFPT

ข่าวศาลปกครองฉบับเต็ม คลิกที่นี่ 

Back to top button