หุ้นสหรัฐผันผวน! DJI ปิดลบเล็กน้อย 1.35 จุด กังวลหนี้พุ่ง หลังสภาผ่านกฎหมายภาษี “ทรัมป์”

ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีความผันผวนปิดบวกสลับลบเล็กน้อย นักลงทุนชะลอการลงทุนระยะสั้น รับแรงกดดันจากร่างกฎหมายลดภาษีที่อาจเพิ่มภาระหนี้สาธารณะ ขณะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุน Nasdaq ปรับตัวบวกแรง


ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายในวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.68) โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ขณะที่ S&P 500 อ่อนตัวเล็กน้อยเช่นกัน ส่วนดัชนี Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งนักลงทุนยังมองว่ามีศักยภาพการเติบโตสูง

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 41,859.09 จุด ลดลง 1.35 จุด หรือ -0.0032%
  • ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 5,842.01 จุด ลดลง 2.60 จุด หรือ -0.044%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 18,73 จุด เพิ่มขึ้น 53.09 จุด หรือ +0.28%

แรงกดดันหลักมาจากการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายลดภาษีวงเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่ง The Wall Street Journal รายงานว่า อาจทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสิบปีข้างหน้า เพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการคลังในระยะยาว

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพี รายงานวันนี้ (23 พ.ค.68) ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับขึ้นในช่วงต้นวัน แต่ภายหลังเริ่มผ่อนคลาย โดยปิดที่ระดับ 4.54% สะท้อนถึงความกังวลของตลาดต่อภาระหนี้ที่จะเกิดขึ้นหากร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้

นักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะในหมวดปัญญาประดิษฐ์ (AI) คลาวด์ และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งได้รับแรงเก็งกำไรและมองว่าเป็นกลุ่มที่สามารถเติบโตได้ดีในระยะยาว ส่งผลให้ Nasdaq เป็นดัชนีที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด แม้ตลาดโดยรวมจะเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยเชิงมหภาค

อย่างไรก็ดี สัญญาณการเงินที่ยังตึงตัว และความกังวลต่อภาระหนี้รัฐบาล ยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นถึงกลาง

Back to top button