ICHI ดีด 4% ลุ้นไตรมาส 2 ปันผลพิเศษ รับงบโตเด่น-บุ๊กขายที่ดิน 120 ล้าน

ICHI บวก 4% ส่งซิกยอดขายไตรมาส 2/68 เติบโต 25% รับตลาด CLMV ฟื้นตัว มีออเดอร์จ้างผลิต 185 ล้านบาท บวกกับไตรมาสนี้มีบันทึกกำไรพิเศษขายที่ดินอยุธยา 120 ล้านบาท เล็งนำมาจ่ายปันผลหลังแจ้งงบไตรมาส 2/68 พร้อมคงเป้ารายได้รวมปีนี้ 9,500 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (5 มิ.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ณ เวลา 10:03 น. อยู่ที่ระดับ 10.10 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 3.59% สูงสุดที่ระดับ 10.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10.57 ล้านบาท

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ ICHI เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดว่ารายได้จากการขายจะเติบโตประมาณ 25% จากไตรมาส 1/2568 ที่มียอดขาย 1,754 ล้านบาท

ขณะเดียวกันในไตรมาส 2/2568 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเปล่า จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 72 ไร่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้กับบริษัท ฮอน ชิน (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อก่อสร้างโรงงานใหม่นั้น ปัจจุบันดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทได้ขายที่ดินดังกล่าวมูลค่า 360 ล้านบาท ซึ่งจะบักทึกกลับมาเป็นกระแสเงินสด และจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษ 120 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2568 ทั้งนี้ บริษัทจะใช้กำไรพิเศษดังกล่าวจ่ายเงินปันผลหลังแจ้งงบไตรมาส 2/2568 ด้วย

สำหรับในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ที่ 185 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 33 ล้านบาท และในไตรมาส 3/2568 มีใบสั่งซื้อสินค้า (Purchase Order) มาแล้ว 170 ล้านบาท ดังนั้น เป้าหมายรายได้ของกลุ่มธุรกิจ OEM ในปี 2568 ที่ 500 ล้านบาทนั้น บริษัทเชื่อว่าจะทำได้อย่างแน่นอน รวมทั้งขณะนี้บริษัทมีการเจรจากับลูกค้าอีก 2-3 ราย คาดว่าจะเริ่มเห็นการผลิตให้กับลูกค้ารายใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ด้วย

 “ในไตรมาส 2/2568 เราเห็นทิศทางที่ดี ทั้งยอดขายจากตลาดต่างประเทศที่เริ่มกลับมา โดยเฉพาะในตลาด CLMV ขณะเดียวกัน Utilization Rate จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2568 มาอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 70% และในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ เราจะเริ่ม launch ตัน พาวเวอร์ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังภายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขา เพื่อจะกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด นอกจากนี้ ทิศทางของต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลงที่ประมาณ 1.5-5% ด้วย” นายตัน กล่าว

นายตัน กล่าวอีกว่า ในปี 2568 บริษัทคงเป้าหมายรายได้รวม 9,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 8,671.14 ล้านบาท โดยบริษัทเริ่มเห็นยอดขายจากตลาดต่างประเทศเริ่มฟื้นตัวกลับมา โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) อีกทั้งยังคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization) ในไตรมาส 3/2568 และไตรมาส 4/2568 จะอยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าไตรมาส 2/2568 ที่ 70% ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัท นอกจากนี้บริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีส่วนแบ่งกำไรจากตลาดอินโดนีเซียกลับมาไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทด้วย ขณะที่ไตรมาส 1/2568 จะมีรายได้รวม 1,754.02 ล้านบาท

Back to top button