
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 400 จุด รับแรงซื้อ “หุ้นแบงก์-เทคโนโลยี” หนุน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรงหลังตัวเลขจ้างงานพ.ค. ดีกว่าคาด หนุนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ สะท้อนแนวโน้มเฟดยังไม่เร่งลดดอกเบี้ย ดัชนี S&P500 ทะลุ 6,000 จุดครั้งแรกในรอบหลายเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดบวกในวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2568 ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคมที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่ง มากกว่าคาดที่ 130,000 ตำแหน่ง และมีการรักษาอัตราว่างงานไว้ที่ระดับ 4.2% ซึ่งเป็นไปตามประมาณการ สะท้อนเสถียรภาพของตลาดแรงงาน และช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะสั้น
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,762.87 จุด เพิ่มขึ้น 443.13 จุด หรือ +1.05% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น 61.06 จุด หรือ +1.03% ปิดที่ 6,000.36 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 231.50 จุด หรือ +1.20% ปิดที่ 19,529.95 จุด โดยในรอบสัปดาห์ ดาวโจนส์บวก 1.17%, S&P500 เพิ่มขึ้น 1.5% และ Nasdaq ขยับขึ้นถึง 2.18%
แรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาด โดยหุ้น Tesla พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากดิ่งลงแรงกว่า 15% ในวันก่อนหน้า จากกระแสข่าวความตึงเครียดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับนายอีลอน มัสก์ รวมถึงความเสี่ยงต่อสัญญาของบริษัทในเครือกับภาครัฐ หุ้นบิ๊กเทคตัวอื่นฟื้นตัวตาม เช่น Amazon ที่เพิ่มขึ้น 2.7% และ Alphabet พุ่งขึ้น 3.25%
ขณะเดียวกัน ดัชนี S&P500 แตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน แม้จะยังต่ำกว่าจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์เพียงไม่ถึง 2% โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มหลักใน S&P500 ปิดในแดนบวกทั้งหมด นำโดยกลุ่มพลังงานและบริการสื่อสารที่เพิ่มขึ้น 1.98% และ 1.88% ตามลำดับ ส่วนกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานขยับขึ้นน้อยที่สุดเพียง 0.18%
ด้านหุ้นธนาคารก็ได้แรงหนุนจากข่าวบวก เช่น หุ้น Wells Fargo ที่ดีดตัวขึ้น 1.9% หลัง S&P Global ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารจาก “คงที่” เป็น “เชิงบวก” โดยก่อนหน้านี้ธนาคารเพิ่งได้รับการยกเลิกข้อจำกัดเรื่องเพดานขนาดทรัพย์สินที่ระดับ 1.95 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการหารือการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรี 3 รายของสหรัฐฯ เตรียมพบกับตัวแทนจีนที่กรุงลอนดอนในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ เพื่อเจรจาข้อตกลงการค้า ซึ่งเป็นพัฒนาการต่อเนื่องจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันก่อน ท่ามกลางข้อพิพาทเกี่ยวกับแร่หายากและประเด็นทางการค้าอื่น ๆ
ทั้งนี้ แม้ข้อมูลตลาดแรงงานจะออกมาดีเกินคาด แต่บรรดานักลงทุนยังคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย โดยมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน และอาจลดอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายน โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในรอบนี้
อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq มีอัตราการปรับตัวขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 โดยได้รับแรงหนุนจากท่าทีผ่อนคลายของทรัมป์ด้านการค้า และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง