“เฟด” คงดอกเบี้ยตามคาด! หวั่นภาษี “ทรัมป์” ทำเงินเฟ้อพุ่ง

“เฟด” คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แต่ยังแสดงท่าทีระมัดระวังมากขึ้น หลังประเมินว่าแผนภาษีนำเข้าของ “ทรัมป์” อาจดันเงินเฟ้อและกดดันเศรษฐกิจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 18 มิ.ย. 68 (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งนับเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังที่เฟดยังมีต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

ขณะเดียวกัน จากแผนภาพ Dot Plot ล่าสุด เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% โดยคาดว่าจะเริ่มในช่วงเดือนกันยายน

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่า แผนปรับขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจกดดันให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีดังกล่าวมีแนวโน้มจะถูกส่งต่อมายังผู้บริโภค

ทั้งนี้ ในการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ เฟดคาดว่า GDP ปี 2568 จะขยายตัวเพียง 1.4% อัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.5% และเงินเฟ้อสิ้นปีอาจสูงถึง 3% ซึ่งยังอยู่เหนือเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้

แม้เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังเน้นว่าการตัดสินใจใด ๆ ต่อไปจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ทยอยออกมาในช่วงถัดไป

ด้านทรัมป์ ออกมาโจมตีพาวเวลล์อย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่าเขา “ไม่ฉลาด” และ “เป็นคนโง่” พร้อมตำหนิว่าเฟดดำเนินนโยบายล่าช้าเกินไป และควรลดดอกเบี้ยเร็วกว่านี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

Back to top button