“ประธานวุฒิสภา” ยื่นศาล รธน.-ป.ป.ช. ถอดถอน “แพทองธาร” ปมคลิปเสียงฮุนเซน

วันนี้ (20 มิ.ย.68) แหล่งข่าวจากวุฒิสภา เปิดเผยว่า นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้พิจารณาถอดถอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

โดยคำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

รายงานข่าวระบุว่า คำร้องดังกล่าวมีความยาว 5 หน้า ยื่นผ่านประธานวุฒิสภาโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวม 36 คน ซึ่งได้รวบรวมรายชื่อและยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

1. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

2. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ตามมาตรา 82 วรรคสอง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 71 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 40 (8)

3. รับทราบหรืออนุญาตให้คณะสมาชิกวุฒิสภา ผู้ร้องรวม 36 คน มอบอำนาจให้ พล.อ.สวัสดิ์ เป็นผู้ดำเนินการแทนในการยื่นคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม หรือคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติม ยื่นบัญชีระบุพยาน ยื่นคำแถลงเปิดและปิดคดี คำชี้แจง ให้การ ให้ถ้อยคำ หรือให้ถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็น รวมถึงเบิกความต่อศาล และดำเนินกระบวนพิจารณาหรือดำเนินการอื่นใดทั้งปวงในคดีนี้ ต่อประธานวุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญ แทนสมาชิกวุฒิสภาทุกคน จนกว่าจะแล้วเสร็จ

สำหรับเหตุผลในการยื่นคำร้องครั้งนี้ สืบเนื่องจากคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งกลุ่มผู้ร้องมองว่า มีเนื้อหาแสดงท่าทีอ่อนข้อให้กับกัมพูชา และมีถ้อยคำพาดพิง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในลักษณะที่กระทบต่อเกียรติของกองทัพและประเทศ

ขณะเดียวกัน ประธานวุฒิสภา ยังได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ไต่สวนกรณีที่นางสาวแพทองธาร อาจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง และอาจเข้าข่ายจงใจใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย