
‘เงินเฟ้อ’ ที่มาพร้อมกับ เบียร์แก้ว 2 ที่แพงขึ้น
ลองจินตนาการว่าคุณกำลังนั่งพักผ่อนในเย็นวันศุกร์ หลังจากสัปดาห์ที่เหนื่อยล้า คุณสั่งเบียร์แก้วแรกในราคา 60 บาท ผ่านไปไม่นาน คุณสั่งแก้วที่สองในร้านเดิม แต่ราคากลับเพิ่มขึ้นเป็น 70 บาท คุณอาจรู้สึกแปลกใจและตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ลองจินตนาการว่าคุณกำลังนั่งพักผ่อนในเย็นวันศุกร์ หลังจากสัปดาห์ที่เหนื่อยล้า คุณสั่งเบียร์แก้วแรกในราคา 60 บาท ผ่านไปไม่นาน คุณสั่งแก้วที่สองในร้านเดิม แต่ราคากลับเพิ่มขึ้นเป็น 70 บาท คุณอาจรู้สึกแปลกใจและตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น หากปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดแค่กับเบียร์ แต่เกิดขึ้นกับของกินของใช้ ค่าเดินทาง หรือแม้แต่ค่าน้ำค่าไฟในชีวิตประจำวัน มันก็คือสัญญาณหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า “เงินเฟ้อ”
เงินเฟ้อ คือ ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยรวมในระบบเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อค่าครองชีพของพวกเราทุกคน และเสถียรภาพของเศรษฐกิจโดยรวม หนึ่งในหน้าที่หลักของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ “แบงก์ชาติ” ก็คือการควบคุมดูแลระดับเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกินไปหรือผันผวนมากจนกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย หน้าที่นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจด้าน “เสถียรภาพทางการเงิน” ซึ่งธนาคารกลางทั่วโลกให้ความสำคัญ
หากเงินเฟ้อสูงเกินไป ราคาสินค้าและบริการจะเพิ่มขึ้นเร็วเกินกว่าที่รายได้ของคนส่วนใหญ่จะตามทัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจะได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน การวางแผนทางการเงิน ทั้งในระดับครัวเรือนและภาคธุรกิจ ก็จะกลายเป็นเรื่องยาก และในที่สุดอาจส่งผลให้การลงทุนและการบริโภคในระบบเศรษฐกิจชะลอตัวลง ในทางกลับกัน หากเงินเฟ้อต่ำเกินไปหรือเกิดภาวะเงินฝืด (deflation) ราคาสินค้าอาจลดลงต่อเนื่อง ผู้คนจะชะลอการใช้จ่ายและรอให้ราคาต่ำลงอีก ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวช้าหรือหยุดนิ่ง
ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลให้ระดับเงินเฟ้ออยู่ในกรอบที่เหมาะสม ผ่านการใช้นโยบายการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจ และการสื่อสารนโยบายกับสาธารณชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและการคาดการณ์ที่มั่นคงเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจ
เมื่อเรากล่าวถึง “เสถียรภาพทางการเงิน” หลายคนอาจนึกถึงเรื่องธนาคาร การลงทุน หรืออัตราแลกเปลี่ยนเป็นหลัก
แต่แท้จริงแล้ว เสถียรภาพทางการเงินยังครอบคลุมถึงการดูแลให้ราคาสินค้าและบริการไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงหรือรวดเร็ว นั่นหมายความว่าแม้แต่ “เบียร์ขวดที่สอง” ของคุณก็อยู่ในขอบเขตที่แบงก์ชาติต้องให้ความสนใจ
เพราะมันสะท้อนถึงต้นทุน ชีวิตความเป็นอยู่ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจ
ดังนั้น การที่ราคาสินค้าต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันไม่ผันผวนมากจนเกินไป ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากนโยบายและกลไกการดูแลของแบงก์ชาติ ซึ่งมุ่งมั่นให้เศรษฐกิจไทยสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมั่นคงในระยะยาว
แต่ที่ผ่านมา เงินเฟ้อของ ไทยตํ่าเป้าเฉลี่ยของแบงก์ชาติมานาน 25 ปีแล้ว โดยเฉพาะ 10 ปีให้หลังที่เงินเฟ้อตํ่ากว่าต่ำกว่าเป้ากรอบล่างอย่างต่อเนื่อง
ไม่แน่ใจว่า ผู้ว่าธปท. คนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่ง หลังวันที่ 13 ส.ค. 2568 จะสามารถทำอะไรให้ดีขึ้นกว่านี้ไหม
หรือคนไทยทั้งประเทศ จะต้องทนรอผล แบบไหว้พระขอพรเทพเทวดา ซึ่งก็ที่ไม่รู้ว่า อีกนานแค่ไหนกว่าจะได้รับพรนั้น
อึ้งย้ง