คัด 22 หุ้นเด่น รับอานิสงส์ ครม. เคาะ 1.15 แสนล้าน อัดฉีด 4 แพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ

โบรกแนะสอย 22 หุ้นเด่น รับอานิสงส์ ครม.เคาะงบ 1.15 แสนล้านบาท ดัน 4 แพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดช่วยกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนในตลาดทุน


ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบข้อเสนอโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) จำนวน 50 หน่วยรับงบประมาณ จำนวน 481 โครงการ รวม 8,939 รายการ ในกรอบวงเงิน 115,375 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นแต่ได้ผลในระยะยาว

โดยครอบคลุมทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้รับจัดสรรวงเงิน 85,000 ล้านบาท 34 โครงการ 7,986 รายการ, ด้านการท่องเที่ยว ได้รับจัดสรรวงเงิน 10,053 ล้านบาท 420 โครงการ 922 รายการ, ด้านลดผลกระทบภาคการส่งออก เพิ่มผลิตภาพ และดิจิทัล วงเงินรวม 11,122 ล้านบาท 10 โครงการ 10 รายการ, และด้านเศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ วงเงิน 9,201 ล้านบาท 17 โครงการ 21 รายการ ตามลำดับ

ทั้งนี้ สอดคล้องกับฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน)  ระบุว่า จากกรณีภาครัฐเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแบ่งเป็น งบด้านโครงสร้างพื้นฐาน 85,000 ล้านบาท และ งบส่งเสริมการท่องเที่ยว 10,053 ล้านบาท เพื่อผลักดันการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตเมืองรองและพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว

ในส่วนของงบโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมโครงการบริหารจัดการน้ำ และปรับปรุงพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่การผลิต ส่งผลบวกต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อาทิ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON และ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK

กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, และ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME

กลุ่มระบบน้ำอย่าง บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO และ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG

กลุ่มค้าปลีกและบริโภคในเมืองรอง อาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP, และ บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MOTHER

กลุ่มสินเชื่อที่ได้อานิสงส์จากรายได้เกษตรเพิ่มขึ้น ได้แก่ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT, และ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT

ขณะที่งบส่งเสริมการท่องเที่ยว วงเงิน 10,053 ล้านบาท มุ่งเน้นกระตุ้นการใช้จ่ายและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสถานที่ท่องเที่ยว ส่งผลบวกต่อกลุ่มโรงแรมและขนส่งทางอากาศ โดยมีหุ้นที่ได้รับประโยชน์ อาทิ

กลุ่มโรงแรม ได้แก่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท เซ็นทรัล พลาซา โฮเทล จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, และ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT

กลุ่มสายการบินอย่าง บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA และกลุ่มสนามบินและระบบบริการท่าอากาศยาน ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY

ทั้งนี้นักวิเคราะห์ คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนในตลาดทุน โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงสร้างพื้นฐานและการท่องเที่ยว

Back to top button