
รัฐบาลเลื่อน! ร่างพ.ร.บ. “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ไม่เข้าสภา 9 ก.ค. นี้
“มนพร” เผยเลื่อนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จากวาระประชุมสภาฯ 9 ก.ค. นี้ออกไปก่อน ขณะที่ฝ่ายค้านจี้ “ถอนร่าง” ไม่ใช่แค่ “ถ่วงเวลา” ด้าน “พริษฐ์” ยังไม่ฟันธงร่วมซักฟอก ขอหารือภายในก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเปิดประชุมสมัยสามัญประจำปี 2568 ในวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยในช่วงเช้า จะพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาและกระทู้ทั่วไป ส่วนช่วงบ่ายจะเข้าสู่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่คณะกรรมาธิการได้พิจารณาเสร็จแล้ว
ขณะเดียวกัน เดิมกำหนดให้วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568 เป็นวันเริ่มต้นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือ “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” เป็นลำดับแรกของวาระ ก่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามลำดับ
วันนี้ (25 มิ.ย.68) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลรับฟังเสียงประชาชนที่ยังมีความไม่เข้าใจในร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แม้จะมีการสื่อสารตลอดช่วงปิดสมัยประชุมว่า กาสิโนจะเป็นเพียง 10% ของพื้นที่ทั้งหมด และส่วนอื่นจะมีกิจกรรมส่งเสริมเศรษฐกิจ แต่ยังจำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจเพิ่มเติม
ทั้งนี้ รัฐบาลได้หารือกับนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เห็นควรเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน โดยจะนำร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นมาพิจารณาแทน
เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เรียกร้องให้รัฐบาล “ถอน” ร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แทนที่จะเลื่อนออกไป โดยให้เหตุผลว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เหมาะสมต่อการผลักดันกฎหมายลักษณะนี้
สำหรับกรณีพรรคภูมิใจไทยเสนอแนวคิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชานั้น
วันนี้ (25 มิ.ย.68) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า พรรคได้หารือภายในกับ ส.ส. แล้ว และเมื่อได้ข้อสรุปจะหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบ ครม. ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งในประเด็นบุคคลและจังหวะเวลาการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151
นายพริษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้ออ้างของรัฐบาลที่ให้เวลาทำงานกับ ครม. ชุดใหม่อาจไม่เพียงพอ เพราะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนยังเป็นบุคคลจากรัฐบาลชุดเดิม ดังนั้นต้องดูว่า ครม. ใหม่มีใครบ้าง เพื่อประเมินว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจใครบ้างนอกจากนายกรัฐมนตรี
โฆษกพรรคประชาชน ยืนยันว่า กลไกตาม มาตรา 151 มาแน่นอน แต่กลไกนี้เป็นอาวุธที่ทรงพลัง ซึ่งใช้ได้เพียง 1 ครั้งต่อสมัยประชุม ระหว่างวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ถึง 2 กรกฎาคม 2569 เท่านั้น ต้องใช้อย่างแม่นยำและต้องหวังผล ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างกระแส หรือกดดันชั่วคราว แต่ต้องมั่นใจว่าสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหาร หรือสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมได้จริง หากใช้ไปแล้วโดยไม่มีผลลัพธ์ นายกฯ ไม่พ้นตำแหน่ง ก็จะใช้ซ้ำไม่ได้อีกในสมัยประชุมเดียวกัน
นายพริษฐ์ ระบุว่า พรรคประชาชนจะหารือภายในก่อน และเมื่อได้ข้อสรุปจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมที่สุดในการใช้กลไกดังกล่าว