วันเดียวกัน! “แพทองธาร” ตรวจชายแดนไทย – “ฮุน เซน” ขยับเยือนทหารกัมพูชา

นายกฯ “แพทองธาร” ลงพื้นที่อรัญประเทศ ประชุม-ตรวจด่านคลองลึก-เยี่ยมทหาร ขณะสมเด็จฮุน เซน เคลื่อนไหวชายแดนฝั่งกัมพูชา เยือนกำลังพลรับบทเสธฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 มิ.ย.68)  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจราชการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเริ่มต้นภารกิจตั้งแต่ช่วงเช้า ด้วยการเป็นประธานการประชุมหารือผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเข้า-ออกจุดผ่านแดน ณ โรงเรียนอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ

ที่ห้องประชุมโรงเรียนอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีถึงข้อเสนอจากตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ โดยระบุว่าในแต่ละปีมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากฝั่งกัมพูชาผ่านช่องทางจังหวัดสระแก้ว คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนโควตาการนำเข้า เพื่อส่งเสริมให้ภาคการผลิตภายในประเทศได้รับการรับซื้อในสัดส่วนที่เหมาะสมมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้ยกเลิกการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านแดนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปัจจุบันมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมคนละ 1,000 บาท โดยในสงกรานต์ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 74 ล้านบาท หากไม่ยกเว้น จะสามารถจัดเก็บเป็นรายได้เข้ารัฐเพื่อนำไปพัฒนาประเทศ

ในที่ประชุมยังได้เสนอให้ชะลอหรือยกเลิกกิจกรรมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ครบรอบ 75 ปี ออกไปโดยไม่มีกำหนด รวมถึงให้ระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นกรณีด้านมนุษยธรรม และเสนอให้พิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน ที่ใช้งบกลางของรัฐบาล เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หนองเอี่ยน-สตึงบท ในพื้นที่ใกล้เคียงมาแล้ว จึงเห็นควรพิจารณาความจำเป็นอย่างรอบด้าน

ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจะพิจารณามาตรการพิเศษต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการจำกัดเวลาเข้า-ออก บริเวณจุดผ่านแดน ซึ่งส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน พร้อมมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ

นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า การเดินทางมาครั้งนี้มีเป้าหมายหลักคือการติดตามปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญ พร้อมย้ำว่าทุกหน่วยงานภายใต้ทีมไทยแลนด์ต้องบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยให้กระทรวงมหาดไทยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกหลักในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างรวดเร็วและโปร่งใส รวมถึงให้เร่งปรับปรุงระบบการรับคำร้องขอความช่วยเหลือที่ล่าช้าในอดีต

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสินค้าคงค้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการชายแดน โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งเข้าช่วยเหลือ และขอให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณาความเกี่ยวข้องของบริษัทเอกชนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง โดยอาจประสานข้อมูลเพิ่มเติมจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกรณีแก๊งสแกมเมอร์

จากนั้น นางสาวแพทองธาร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก พบประชาชน ผู้ประกอบการ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ก่อนเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจกองร้อยทหารพรานที่ 1202 บ้านป่าไร่ พบครูและนักเรียน ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่ค่ายสุรสิงหนาท

วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia” รายงานความเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรี นั่งเฮลิคอปเตอร์เดินทางลงพื้นที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจกำลังพลของกองทัพกัมพูชา พร้อมประกาศรับตำแหน่ง “เสนาธิการทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง”

การเคลื่อนไหวของผู้นำทั้งสองประเทศที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน สะท้อนถึงการให้ความสำคัญต่อพื้นที่ชายแดนอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีแรงกดดัน

Back to top button