“สหภาพแรงงาน NT” บุกกสทช. ค้านประมูลคลื่น 850–2300 MHz ชี้เสี่ยงผูกขาด–ลดโอกาสรัฐวิสาหกิจ

กลุ่มสหภาพแรงงาน NT คัดค้านการประมูลคลื่นความถี่ 850–2300 MHz ชี้ไม่โปร่งใส เอื้อเอกชนผูกขาด ทำรัฐวิสาหกิจไร้คลื่นให้บริการประชาชนอย่างเท่าเทียม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ภาคเอกชน 2 ราย คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC หรือ AIS เข้าห้องเสนอราคาประมูลแล้ว ทางกลุ่มสหภาพแรงงาน บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) หรือ NT

โดย นายเชิดชัย กัลยาวุฒิพงศ์ ประธาน สหภาพฯ ได้เดินทางมาที่ สำนักงาน กสทช. เพื่อคัดค้านการประมูลคลื่นความถี่ (Spectrum Auction) สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล คลื่นความถี่ย่าน 850 MHz, 1500 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz ที่ ได้จัดประมูลในครั้งนี้ ซึ่งทางกลุ่มสหภาพแรงงานฯ NT ยืนยันจุดยืนว่าการประมูลคลื่นครั้งนี้ไม่โปร่งใส เป็นการมอบสมบัติชาติให้เอกชน โดยที่ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช. ได้จัดงานการประชุมชี้แจงขั้นตอนการประมูล (Bidder Information Session) และการประมูลรอบสาธิต (Mock auction) ทางสหภาพแรงงาน NT ได้มีเข้ามาแสดงจุดยืนคัดค้านเช่นกัน โดยยื่นข้อเรียกร้องต่อสำนักงาน กสทช. ให้ยุติการประมูลคลื่นครั้งนี้ ด้วยสภาพการแข่งขันในตลาดเอื้อให้เอกชนที่มีเงินทุนได้ประมูลคลื่น หวั่นผูกขาด และจะทำให้รัฐวิสาหกิจอย่าง NT ไม่มีคลื่นในมือสำหรับให้บริการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และบริการประชาชน ในขณะที่เอกชนกลับมีคลื่นเต็มมือ จึงเสนอให้มีการพิจารณาจัดสรรคลื่นใหม่สำหรับบริการประชาชนด้วย

โดยคำร้องขอของสหภาพแรงงาน NT (สร.ทช.) ระบุเหตุผลในการคัดค้านการประมูลคลื่นความถี่ดังนี้ 1. คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติ โดยย้ำว่าคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติที่ กสทช. ควรจะกำกับดูแลเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เพื่อกลุ่มทุนในธุรกิจโทรคมนาคม 2.ราคาประมูลไม่เหมาะสมการประมูลเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ประกอบการไม่ได้ขาดแคลนคลื่นความถี่ในการให้บริการสื่อสารไร้สายเคลื่อนที่ อาทิ 5G และมีการกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำที่ต่ำกว่าการประมูลในอดีต โดยไม่มีเงื่อนไขชัดเจนในการลดราคาค่าบริการให้กับประชาชน ซึ่งอาจส่งผลประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุนมากกว่าประเทศชาติและประชาชน

3.ส่งเสริมการผูกขาดในตลาด ในปัจจุบันธุรกิจสื่อสารไร้สายเคลื่อนที่จะเหลือผู้ให้บริการรายใหญ่เพียง 2 รายเท่านั้น ทางสหภาพแรงงานฯNT กังวลว่าการประมูลครั้งนี้จะไม่ส่งเสริมตลาดที่มีการแข่งขันอย่างเสรี เท่าเทียม และเป็นธรรม (Equality, Equity and Fairness) แต่จะส่งเสริมภาวะตลาดผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด เนื่องจากมีผู้ให้บริการน้อยราย ซึ่งอาจคงอยู่ยาวนานถึง 15 ปี ตามระยะเวลาการอนุญาตใช้คลื่นความถี่ การผูกขาดนี้จะเอื้อประโยชน์ให้นายทุนกักตุนคลื่นความถี่ และปิดโอกาสผู้ให้บริการรายใหม่ รวมถึงรัฐวิสาหกิจ ไม่ให้เข้าถึงสิทธิในการใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการประชาชน

4.ความสำคัญของโครงข่ายสื่อสารในฐานะโครงสร้างพื้นฐาน แม้บริการสื่อสารโทรคมนาคมจะไม่ใช่บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยตรง แต่โครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของบริการบรอดแบนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อพัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Digital Economy) ทางสหภาพแรงงานฯNT ชี้ว่าไม่ควรมองบริการสื่อสารไร้สายเคลื่อนที่เป็นเพียงธุรกิจการแข่งขัน แต่ควรมองว่าเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนาสังคม เพื่อลดช่องว่างดิจิทัล (Digital Divide) และให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียมและเสมอภาค และเสนอให้ใช้รัฐวิสาหกิจ หรือ NT ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล

Back to top button