
“จิรายุ” ย้ำรัฐประหารไม่ใช่คำตอบ มีแต่ฉุดไทยทรุด ต้องเดินบนเส้นทางประชาธิปไตย
“จิรายุ ห่วงทรัพย์” ย้ำชัดรัฐประหารไม่ใช่ทางออกทางการเมือง มีแต่จะฉุดประเทศให้ถดถอยลง ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและยืนหยัดบนเส้นทางประชาธิปไตยเพื่อความก้าวหน้าของชาติ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 11.00 น. การชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา เป็นสิทธิในการแสดงออกตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ในส่วนของเนื้อหาการปลุกระดมและปราศรัยของแกนนำผู้ชุมนุมนั้น ในยุคที่ประเทศไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมา 93 ปีของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นั้น เห็นเป็นทฤษฎีของประเทศไทยแล้วว่า การปฏิวัติรัฐประหารไม่เคยเป็นคำตอบที่ “ใช่” มาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ละครั้งมีแต่จะฉุดรั้งให้ประเทศถอยหลังลงคลองมาทุกยุคทุกสมัย
อีกทั้งยังเชื่อว่าหากมีการปกครองด้วยระบอบรัฐประหารอีกไทยจากประเทศ “กำลังพัฒนา“ คงจะถูกปรับไปเป็นประเทศ “ด้อยพัฒนา” ในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน
นายจิรายุ กล่าวอีกว่าแกนนำหลายคนที่ เรียกร้องหารถถังบนเวที เป็นสิ่งที่คนไทยและประเทศไทย ไม่อาจยอมรับได้ แกนนำหลายคน ในอดีตปากเคยบอกว่าขอต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ จึงขอเรียกร้องให้คนไทยทั้งประเทศ ร่วมกันต่อต้านแนวทางดังกล่าว และรู้ทันบุคคลเหล่านี้ ที่แสวงหาอำนาจจากการปฏิวัติ ยึดอำนาจมาตลอด 20 ปี ที่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ต่างเจ็บปวด และเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้จากการเรียกร้องของคนกลุ่มเดิม ๆ
“รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชนนอกจากมีหน้าที่จะต้องปกป้องอธิปไตยของประเทศแล้วยังมีหน้าที่หลักสำคัญที่จะต้องปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชนคนไทยทุกคน เราจะรวมใจกันแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะไม่ สนับสนุนการทำปฏิวัติ รัฐประหาร และจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้อีก” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่าจากเนื้อหา การปราศรัยเห็นอย่างชัดเจนว่า แกนนำพร้อมที่จะดึงประเทศถอยหลังลงคลองโดยไม่สนใจประชาชนกว่า 70 ล้านคน จะเป็นจะตายหรือจะอยู่กันอย่างไร ท่ามกลางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศ ในภูมิภาคและระดับโลกที่รุมเร้า
โดยการปราศรัย ทำให้เห็นความเชื่อมโยงของแกนนำ ที่สอดรับกับ ผู้นำกัมพูชา ที่ยุยงปลุกปั่น และก้าวล่วง แทรกแซงคนไทยและประเทศไทยมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ว่าจะสามารถยิงขีปนาวุธได้ถึงกรุงเทพมหานคร การกล่าวว่ารัฐบาลปฏิวัติของไทยสามารถทำงานร่วมกัน กับตนเองได้โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายได้อย่างราบรื่น
อย่างไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่สอดรับกับคำปราศรัย และแนวทางที่กลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมมีความประสงค์จะโค่นล้มรัฐบาลหรือให้มีการปฏิวัติรัฐประหารอันนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ และการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่างชัดเจน
ขณะที่รัฐบาลจะยืนหยัดในการธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอเรียกร้องให้องค์กรต่าง ๆ ที่ร่วมกันต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารได้จับมือประสานกันรณรงค์เพื่อต่อต้านกลุ่มบุคคล ที่เรียกร้องให้ทำการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อไม่ให้ประเทศไทยบอบช้ำไปมากกว่านี้ นายจิรายุ กล่าว