
SET บ่ายพุ่ง 18 จุด การเมืองชัดเจน หลังศาลสั่งนายกฯ หยุดหน้าที่ชั่วคราว–งบปี 69 ลุยต่อได้
ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้พุ่งแรง 18 จุด หลังคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ชี้สภายังสามารถพิจารณางบประมาณปี 69 ต่อเนื่องได้อย่างราบรื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ก.ค.68) ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 14:13 น. อยู่ที่ระดับ 1,107.09 จุด บวก 17.53 จุด หรือ 1.61% สูงสุดที่ระดับ 1,107.89 จุด ต่ำสุดที่ระดับ 1,086.56 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 22,913.14 ล้านบาท
โดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นกว่า 15 จุด หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องและมีคำสั่งสำคัญในคดีที่เกี่ยวข้องกับสถานะของนายกรัฐมนตรี โดยมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 รับคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กรณีคลิปฮุนเซน พร้อมมีมติ 7 ต่อ 2 ให้สั่งนายกรัฐมนตรี แพทองธาร วินิจฉัยหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว โดยรองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย จะปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาดังกล่าว
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด มองว่า คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับความคาดหมายของตลาด และการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากมีการบริหารงานรัฐบาลอย่างต่อเนื่องผ่านรองนายกรัฐมนตรีรักษาการ อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้ยังคงเป็น “Overhang” ทางการเมืองที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยสุดท้าย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการเมืองอื่นที่น่าจับตามอง เช่น การผลักดันร่างงบประมาณปี 2569 คดีความที่ยังคงดำเนินอยู่ รวมถึงการชุมนุมทางการเมืองที่จะมีผลต่อบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการลงทุนในไตรมาส 3 นี้
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังแนะนำเน้นหุ้นที่มีผลประกอบการไตรมาส 2 ดีและจ่ายเงินปันผลสูง อาทิ ADVANC, BAM, PRM รวมถึงหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า โรงพยาบาล และหุ้นที่มีรายได้หลักจากต่างประเทศ ได้แก่ GULF, HANA และ PR9
ขณะเดียวกัน นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ระบุว่า SET ต้องการความชัดเจนว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะ “รับ” หรือ “ไม่รับ” เมื่อความชัดเจนเริ่มเกิดขึ้น ก็ทำให้แรงกดดันลดลง เมื่อมีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยยังคงบวกอยู่แล้ว เพราะอย่างน้อยที่สุดคาดว่าคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกฯ คนถัดไป ก็จะเป็นคนจากขั้วเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีสุญญากาศทางการเมือง งบไปต่อได้ จึงเกิดแรงถอยเล็กน้อยและซื้อกลับ’
สำหรับความเคลื่อนไหวรอบนี้ มองแนวต้านที่ 1,120 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,150 จุด จากปัจจัยต่างประเทศ เรื่อการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ หลายประเทศเริ่มมีสัญญาณที่ดี ขณะที่ของไทยเอง หากเจรจาได้ที่ระดับ 10-15% คาดว่าจะส่งผลบวกให้หุ้นไทยไปต่อ
ขณะที่การลงทุน แนะนำ GULF หลังโดนเทขายจากประเด็นการเมืองในประเทศ ปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าซื้อกลับ ถัดมาคือ KCE จากส่งออกที่เร่ง ส่งผลบวกต่องบไตรมาส 2 ปี 2568 ขณะที่ราคายังค่อนข้างต่ำ (Laggard) ITC โดนเก็บภาษีต่ำกว่าคาด และ BH เข้าสู่ไฮซีซัน และราคายัง Laggard