Dividend Universe

เส้นทางนักลงทุน สำหรับตลาดหุ้นไทยแล้ว ผลตอบแทนจากหุ้นปันผลถือว่ามีความโดดเด่นมาก โดยล่าสุดฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้นำเสนอ “กลุ่มหุ้น Dividend Universe” เพื่อเป็นตัวช่วยหนึ่งในการคัดเลือกหุ้นสำหรับการลงทุนหุ้นปันผล โดยคัดเลือกจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีผลประกอบการดี มีกำไรสุทธิ มีสภาพคล่องในการดำเนินงาน มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกตลอดช่วง 5 ปี และมีคะแนนบรรษัทภิบาลในระดับ “ดี” ขึ้นไป ทั้งนี้ จากการศึกษาข้อมูลชุดล่าสุดในปี 2568 พบว่า มีบจ.ผ่านเกณฑ์การพิจารณา 150 บริษัท จากทั้งหมด 845 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีบจ.ผ่านเกณฑ์การพิจารณา 141 บริษัท แบ่งเป็น บจ.ใน SET 129 บริษัท และใน mai 21 บริษัท ซึ่งกลุ่มธุรกิจบริการมีบจ.ผ่านเกณฑ์ฯ มากที่สุด 55 บริษัท รองลงมาคือกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร 22 บริษัท แต่หากเทียบกับบจ.ทั้งหมดในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่าบจ.ในกลุ่มบริการ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มเทคโนโลยี มีบจ.อยู่ใน Dividend Universe ในสัดส่วนที่สูงกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มบริการ บจ.กลุ่มหุ้น Dividend Universe มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยช่วง 5 ปี อยู่ที่ 4.20% ขณะที่ตลาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 2.89% โดย 48 บริษัท จากทั้งหมด 150 บริษัท มี Dividend Yield เฉลี่ย 5 ปี สูงกว่า 5% ต่อปี มีข้อสังเกตว่า บจ.กลุ่มหุ้น Dividend universe เป็นหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของ SETESG Index สูงกว่าดัชนีอื่น ๆ และหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของ SETCLMV Index ทุกหลักทรัพย์ (ทั้ง 30 หลักทรัพย์) ผ่านเกณฑ์บจ.ในกลุ่มหุ้น Dividend universe โดยสรุปอาจกล่าวได้ว่า นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้านในการคัดเลือกหลักทรัพย์เพื่อลงทุนในหุ้นปันผล อีกทั้งเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นปันผลสามารถพิจารณาได้หลายแนวทาง ซึ่ง “กลุ่มหุ้น Dividend universe” นับเป็นตัวช่วยหนึ่งในการคัดเลือกหุ้นสำหรับการลงทุนหุ้นปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย