“ภูมิใจไทย” ผนึกฝ่ายค้าน! 5 พรรคจับมือจี้ “รัฐบาล” ถอนกฎหมาย เอน’ คอมเพล็กซ์ – แก้ รธน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ก.ค.68) ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมร่วมระหว่างหัวหน้าและแกนนำพรรคฝ่ายค้าน 5 พรรค ได้แก่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม

การหารือครั้งนี้จัดขึ้น ก่อนเปิดประชุมรัฐสภา สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป โดยถือเป็นการเตรียมความพร้อมและกำหนดท่าทีของพรรคฝ่ายค้านต่อประเด็นสำคัญทางการเมือง โดยเฉพาะร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการเปลี่ยนผ่านทางอำนาจบริหาร

ขณะเดียวกัน การประชุมวันนี้ยังนับเป็นครั้งแรกที่พรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมหารือในฐานะฝ่ายค้าน หลังถอนตัวจากรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

ภายหลังการประชุม ตัวแทนทั้ง 5 พรรคแถลงจุดยืนร่วมกัน 4 ข้อหลัก ได้แก่

1. เดินหน้าผลักดันกลไกในสภาผู้แทนราษฎร กดดันให้รัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (กาสิโน)
2. เสนอให้จัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหม่
3. ตั้งคณะทำงานศึกษาประเด็นกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งยังมีหลายประเด็นต้องพิจารณา
4. การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ขอรอดูท่าทีจากสถานการณ์ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีของนางสาวแพทองธาร

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงข้อเสนอของพรรคประชาชนในการสนับสนุนการโหวตนายกฯ คนใหม่ ว่า เป็นแนวทางที่พรรคเชื่อว่าจะเป็นทางออกของประเทศ ถ้าสถานการณ์เดินไปถึงจุดนั้น ไม่ได้เสนอโดยมีเงื่อนไขว่าจะโหวตให้ใครหรือไม่โหวตให้ใครซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านมีจุดยืนอย่างเดียวกัน และไม่มีฝ่ายไหนไม่เห็นด้วย

“เราไม่ได้ยึดติดว่าโหวตให้คุณชัยเกษม (นิติสิริ) โหวตให้คุณอนุทิน เราไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง …เราดูที่จุดร่วมกันว่าการออกเสียงของพรรคประชาชน ต้องเป็นการสร้างทางออกให้กับประเทศ” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ด้านนายอนุทิน ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีการเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว พร้อมระบุว่า ในหลักการหากใครจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ ควรเข้ามาด้วยระยะเวลาเฉพาะกิจ เพื่อเร่งยุบสภาและจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว แต่ต้องให้ถึงเวลาเหมาะสม เพราะขณะนี้นางสาวแพทองธาร ยังอยู่ในตำแหน่ง

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า การที่พรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมทำงานกับฝ่ายค้าน จะช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับทีมฝ่ายค้านมากยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันว่าฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุลอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติศรัทธา ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และความมั่นคง แม้จะไม่มีอำนาจบริหาร แต่ฝ่ายค้านจะยืนหยัดเป็นกระบอกเสียงแทนประชาชนอย่างถึงที่สุด