
KUN ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นกู้อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.40% จ่อพัฒนาโครงการใหม่
KUN ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/68 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 70 อัตราดอกเบี้ย 7.40% ต่อปี เตรียมระดมทุนพัฒนาโครงการใหม่ พร้อมชูจุดแข็งบริหารเงินสดมั่นคง สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบในเขตชานเมืองกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุมัติการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2568 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 ชนิดระบุผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.40% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต.
โดยหุ้นกู้ชุดดังกล่าว เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดกำหนดวันจองซื้อระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 และ คาดเสนอขายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โดยมีธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ และ บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุน เพื่อใช้ซื้อทรัพย์สินและการลงทุนสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทั้งในส่วนของการก่อสร้างบ้าน และ ก่อสร้างระบบสาธารณูโภค โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการใหม่ที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งเพื่อเป็นเงินค่าใช้จ่ายในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
โดยบริษัทฯ มีแผนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวน 8 โครงการ โดยเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบทั้งหมด ประกอบด้วยประเภทโครงการบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์ และ อาคารพาณิชย์ สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ได้แก่ โครงการคุณาลัย พาร์โก้, โครงการนาวาร่า พระราม 2, โครงการนาวาร่า รังสิต – คลอง 2
ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการบนทำเลสำคัญต่อการขยายเขตเมือง โดยโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างปัจจุบันอยู่บนทำเล 3 แห่ง ได้แก่ บนถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย, พื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี, ถนนบางขุนเทียนชายทะเล จังหวัดกรุงเทพมหานคร และ ถนนเลียบคลองสอง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีปัจจัยด้านความต้องการที่พักอาศัย ทั้งจากชุมชนในเขตพื้นที่โดยรอบ และ คนเมืองที่ต้องการบ้านที่มีคุณภาพ สภาพแวดล้อมดีในราคาสมเหตุสมผล โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มองหาทางเลือกในการอยู่อาศัยนอกตัวเมืองที่มีความสงบ เป็นส่วนตัว แต่ยังเดินทางสะดวก และ เชื่อมต่อกับโครงข่ายคมนาคมหลักได้ง่าย ซึ่งตรงกับแนวทางการพัฒนาของบริษัทที่เน้นออกแบบโครงการให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงของลูกค้าในแต่ละทำเลอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งนโยบายการผ่อนคลายมาตรการ LTV (Loan to Value) ของภาครัฐ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ และ พื้นที่ตลาดขนาดย่อม บริเวณด้านหน้าโครงการในทุกโครงการ ให้เหมะสมกับความต้องการใช้งานของลูกค้าในโครงการ รวมถึงชุมชนบริเวณโดยรอบโครงการที่ต้อการใช้พื้นที่ดังกล่าวในการพัฒนาธุรกิจ โดยมียอดความต้องการของผู้เช่าเข้ามาแล้วบางส่วน เพื่อเพิ่มรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทฯ
“บริษัทฯ มีแผนชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2568 ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้นำเงินจากหุ้นกู้ชุดใหม่มาใช้ในการชำระหนี้เดิม แต่เกิดจากจุดแข็งของบริษัทฯ ในการบริหารกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง และ พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคตอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เช่น โครงการนาวาร่า รังสิต–คลอง 2 และโครงการนาวาร่า พระราม 2 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงถึง 35-40% โดยมียอดความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งความสามารถในการบริหารจัดการที่ดินทำเลคุณภาพ ที่พร้อมสำหรับการพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่า หรือ จำหน่ายเพื่อเสริมสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต” นางประวีรัตน์ กล่าว