
สังคมข่าวหุ้น
ดัชนีปิดบวก 11.52 จุด ปิดที่ 1,127.21 จุด ส่วนมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 34,920 ล้านบาท เดลต้าฯ DELTA มีส่วนต่อการดันดัชนีมากถึง 5 จุด
ดัชนีปิดบวก 11.52 จุด ปิดที่ 1,127.21 จุด ส่วนมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 34,920 ล้านบาท เดลต้าฯ DELTA มีส่วนต่อการดันดัชนีมากถึง 5 จุด รวมถึงการบวกของ GULF AOT CPALL ที่ต่างปิดในแดนบวก มีส่วนต่อการดันดัชนีเช่นกัน
ในกลุ่มชิ้นส่วนฯ ไม่ใช่มีเพียงเดลต้าฯ เท่านั้นที่บวกถึง 4.76% แต่หากมองไปยังหุ้น CCET KCE และ HANA ต่างบวกด้วยเช่นกัน ได้รับปัจจัยหนุนจากการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และไทย นั่นแหละ ที่ถูกมองกันว่า หุ้นชิ้นส่วนน่าจะได้รับประโยชน์ หลังจากสหรัฐฯ ดีลกับเวียดนามแล้วเสร็จ ส่วนของไทยฐานภาษีอาจไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
บัตรกรุงไทย KTC ปิดบวก 0.25 บาท มาที่ 25.75 บาท ระหว่างวันราคาขึ้นไปสูงสุด 26.00 บาท ในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า กรณีนี้เคยบอกแล้วว่า ในช่วงสั้น ราคาหุ้นจะมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 26.50-27.00 บาท เพราะเป็นแนวต้านที่คนมีต้นทุนบริเวณ 22.00-23.00 บาท หรือต่ำกว่า 25.00 บาทลงมา น่าจะขายทำกำไรกันสนุกสนาน ดังนั้น ระดับราคา 26.00-27.00 บาท ยังไม่ควรเข้าที่บริเวณนี้ ต้องรอให้ต่ำกว่า 25.00 บาท หรือจะซื้อที่ระดับราคาดังกล่าวเลยก็ได้ แต่หากคิดว่าจะซื้อถือยาว รับเงินปันผล ก็ควรซื้อที่ราคาไม่เกิน 27.00-28.00 บาท เช่นกัน
กลุ่มแบงก์เริ่มมีแรงเก็งกำไรกันเข้ามาเรื่อย ๆ หลังจากจะมีการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2568 ในช่วงวันที่ 14-21 ก.ค.นี้ เริ่มจาก บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป หรือ TISCO โดยคาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 1.5-1.6 พันล้านบาท ลดลง 10% +/- เล็กน้อย แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คงแนะนำ “ซื้อ” จากเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ยังจ่ายเงินปันผลระดับสูง ส่วนหุ้นแบงก์อื่น ๆ จะทยอยแจ้งงบตามกันออกมา ด้านภาพรวมนั้น กำไรจะปรับลดลงบ้าง แต่ที่ต้องจับตาคือ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญไหม
กัลฟ์ฯ GULF ราคาหุ้นสู้อยู่ที่บริเวณ 40.00 บาท +/- หากราคายังยืนเหนือ 40.00 บาท ได้ตลอดสัปดาห์หน้า น่าจะกลับตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้นละ เพราะมีแรงซื้อเพื่อพยุงราคาเข้ามาพอสมควร ส่วนใครที่ทำขายชอร์ตไว้ หรือเล่นแบบขายชอร์ตหุ้นกัลฟ์ฯ อาจต้องรีบ Cover เพราะงานนี้แรงเงินที่จะนำมาใช้ประคอง หรือต่อสู้กับกลุ่มทำชอร์ตเซล เงินบนหน้าตักมีไม่อั้น ส่วนด้านพื้นฐานไม่มีอะไรที่จะต้องมากังวล
คณะกรรมการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย ประจำปี 2568-2570 ภายใต้การบริหารของ “ดร.สมพร สืบถวิลกุล” ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 2 และมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ประกาศแผนยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยไทย มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจประกันวินาศภัยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี โดยเน้นการยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมในทุกมิติ เดินหน้าผนึกแผนการทำงานร่วมกับคณะกรรมการประกันภัยสาขาต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
ราคาหุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย AOT เริ่มแกว่งออกข้าง สะท้อนว่าราคาที่เคยลงมาแถว ๆ 27.00 บาท น่าจะเป็นจุดต่ำสุดหรือ “ฐาน” แล้วล่ะ ส่วนราคาที่ยืนเหนือ 30.00 บาท ได้หลายวันติดต่อกัน (8 วัน) ทำให้เป็นแนวรับที่ค่อนข้างแข็งแกร่งพอสมควร ส่วนในด้านพื้นฐาน หรือปัจจัยที่จะเข้ามานั้น ในด้านปัจจัยลบไม่น่าจะมีอะไรแย่ไปกว่าข่าวที่รับรู้กันไปแล้ว ที่เหลือรอหาปัจจัยบวกเท่านั้น ส่วนราคาหุ้นหากจะให้กลับไปเล่นกันพีอีสูง ๆ จะยังไม่ใช่ในระยะเวลาใกล้แน่นอน เพราะบรรดากองทุนเพิ่งจะปรับพอร์ตขายออก
คาเฟอีน