
“บัวหลวง” เชียร์ซื้อ 3 หุ้นค้าปลีก รับยอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูง-ต้นทุนลด
บล.บัวหลวง มอง “ค้าปลีก” น่าลงทุน แม้ยอดขายทรงตัว แต่ได้แรงหนุนต้นทุนค่าไฟลด ดอกเบี้ยต่ำ และยอดขายสินค้ากำไรสูงพุ่งขึ้น แนะนำซื้อ 3 หุ้นเด่น CPAXT-CPALL-CPN
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง กลุ่มค้าปลีก จากการตรวจสอบกับผู้บริหารกลุ่มร้านค้าปลีก พบว่า ยอดขายสาขาเดิมเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ให้คำแนะนำในเดือน มิ.ย. ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ใกล้เคียงกับเดือน พ.ค. โดยถูกกดดันจากปัจจัยมหภาค
รวมถึงจำนวน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ลดลงถึง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 16.7 ล้านราย ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน)
ทั้งนี้ กลุ่มค้าปลีกสินค้าจำเป็นยังคงแข็งแกร่ง โดยยอดขายสาขาเดิมลดลงเพียง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สนับสนุนจากยอดขายอาหารสดและยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่เติบโตแข็งแกร่ง
ขณะที่กลุ่มห้างสรรพสินค้า อาทิ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC คาดการณ์ว่ายอดขายสาขาเดิมลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากความอ่อนแอของอุปสงค์สินค้าฟุ่มเฟือยและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดองและยูโร
ขณะที่ กลุ่มสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านยังคงอ่อนแอที่สุด โดยยอดขายสาขาเดิมลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นอัตราที่ดีขึ้นเล็กน้อยจากการลดลง 9% ในเดือน พ.ค. โดยยอดขายเริ่มกลับเข้าสู่กาวะทรงตัวหลังเดือน เม.ย.-พ.ค. ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณารายบริษัท พบว่า บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ธุรกิจ (Makro และ Lotus’s) มียอดขายสาขาเดิมในเดือนมิ.ย. ทรงตัว จากอุปสงค์ด้านบริการอาหารและการเติบโตของธุรกิจต่างประเทศ ส่งผลให้ CPAXT เป็นบริษัทที่มียอดขายสาขาเดิมดีที่สุดในกลุ่มค้าปลีกที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ให้คำแนะนะนำ
ในทางตรงกับข้าม บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME รายงานยอดขายสาขาเดิมลดลง 11% ซึ่งอ่อนแอที่สุดในกลุ่มฯ โดยถูกกดดันจากการขาดสินค้ากลุ่มเหล็ก ซึ่งกระทบต่อยอดขายในกลุ่มลูกค้าโครงการและร้านค้าช่าง (ยอดขายสาขาเดิมในกลุ่มนี้ลดลง 16-17%)
ขณะที่กำไรหลักของกลุ่มค้าปลีกที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ให้คำแนะนำในไตรมาส 2/68 มีแนวโน้มชะลอตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดยายสาขาเดิมที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของอัตรากำไรจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สนับสนุนจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงในยอดขาย ต้นทุนค่าไฟที่ลดลง และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง กลุ่มค้าปลีกสินค้ายังเป็นกลุ่มที่สามารถปรับตัวได้โดดเด่นที่สุด ขณะที่กลุ่ม HD&C มีแนวโน้มกำไรหลักลดลงลงทั้ง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า จากแรงกดดันของยอดขายสาขาเดิมที่ลดลงแรงในไตรมาสนี้
ส่วน กลยุทธ์ลงทุน ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มค้าปลีก อาทิ CPAXT ราคาเป้าหมาย 32 บาท, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ราคาเป้าหมาย 70 บาท, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ราคาเป้าหมาย 55 บาท ส่วนหุ้นที่แนะนำ “ถือ” อาทิ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ราคาเป้าหมาย 21 บาท
ขณะที่แนะนำ “ขาย” อาทิ CRC ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท, DOHOME ราคาเป้าหมาย 2.60 บาท, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ราคาเป้าหมาย 4.00 บาท บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท และ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท