“เบสเซนต์” เตือน 100 ประเทศคู่ค้า! “สหรัฐ” ยืดเส้นตายบังคับใช้ภาษีตอบโต้ 1 ส.ค. นี้

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศชัด เตรียมบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ 1 ส.ค.นี้ ส่งหนังสือเตือนกว่า 100 ประเทศให้เร่งปิดดีล “เบสเซนต์” ย้ำ ไม่ใช่เส้นตายใหม่ แต่คือช่วงเวลาที่มาตรการจะเริ่มบังคับจริง


สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนายฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงข่าวร่วมกันว่า สหรัฐฯ จะเริ่มบังคับใช้มาตรการ ภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคม 2568

ทั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเรียกเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าของประเทศที่ไม่มีความตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ หรือมีอัตราภาษีที่ไม่เป็นธรรม โดยจะเริ่มต้นที่ 10% และสามารถปรับเพิ่มได้สูงสุดถึง 70% สำหรับประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ

นายเบสเซนต์ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยระบุอัตราภาษีที่อาจถูกเรียกเก็บ พร้อมเปิดทางให้มีการเจรจาแบบรายประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ ก่อนมาตรการจะมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้า

“นี่ไม่ใช่เส้นตายใหม่ เรากำลังบอกว่า นี่คือเวลาที่มาตรการจะเกิดขึ้น หากคุณต้องการเร่งมือ ก็รีบเข้าเจรจา หากคุณอยากให้อัตราภาษีกลับไปเป็นแบบเดิม นั่นก็เป็นการตัดสินใจของคุณเอง” นายเบสเซนต์กล่าว พร้อมแย้มว่า “จะมีกิจกรรมที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า” โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า รัฐบาลกำลังเร่งเจรจากับประเทศคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอินเดีย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อหาข้อยุติก่อนถึงกำหนด ขณะที่ เครือรัฐออสเตรเลีย ถือเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ได้รับการยกเว้นจากมาตรการดังกล่าว

แหล่งข่าวจาก Politico รายงานว่า การขยายเวลาในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อกดดันให้ประเทศคู่ค้าตัดสินใจเจรจาและปิดดีลโดยเร็ว ก่อนมาตรการมีผลบังคับจริง

ขณะที่ Barron’s ระบุว่า ข่าวการขยายเวลาออกไปอีกหนึ่งเดือน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐฯ ปรับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลถึงความเป็นไปได้ของ “สงครามการค้า” รอบใหม่ หากประเทศคู่ค้ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้ทันเวลา

ทั้งนี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะลดการขาดดุลการค้ารวมของประเทศลงอย่างน้อย 30% ภายในปี 2573 และผลักดันให้การค้ากับประเทศคู่ค้ามีความสมดุลภายในระยะเวลา 7-8 ปีข้างหน้า

Back to top button