WHA-AMATA ร่วงต่อ! กังวล “สหรัฐ” แผนกำจัดส่งออกชิป AI “ไทย-มาเลเซีย” สกัดส่งต่อจีน

WHA- AMATA ราคาร่วงต่อ เหตุกังวลจากภาษีทรัมป์ จำกัดการส่งออกชิป AI มายังไทยและมาเลเซีย เพื่อสกัดการส่งต่อไปยังประเทศจีน โบรกเกอร์ให้น้ำหนักผลกระทบจิตวิทยาทางลบ ฟากผู้บริหาร WHA ยืนยันไม่กระทบลูกค้า DATA Center


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ก.ค. 68) ราคาหุ้นของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ณ เวลา 10:14 น. อยู่ที่ระดับ 3.04 บาท ลบ 0.06 บาท หรือ 1.94% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 3.04 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 391.64 ล้านบาท

บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ณ เวลา 10:15 น. อยู่ที่ระดับ 13.60 บาท ลบ 0.60 บาท หรือ 4.23% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 13.70 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 13.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160.98 ล้านบาท

นักลงทุนยังคงเดินหน้าขายหุ้น WHA และ AMATA ออกมาต่อเนื่องจากเมื่อวาน ท่ามกลางความกังวลต่อท่าทีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่มีแผนจำกัดการส่งออกชิป AI มายังประเทศไทยและมาเลเซีย เพื่อป้องกันการส่งต่อไปยังจีน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าชิป AI รวมถึงอาจเป็นอุปสรรคต่อแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Data Center สำหรับรองรับเทคโนโลยี AI ของทั้ง WHA และ AMATA ในอนาคต

ด้านนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ”  ถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการจำกัดส่งออกชิป AI มายังประเทศไทยนั้นว่า WHA ได้มีการสอบถามไปยังลูกค้าหลายรายที่ใช้ชิป AI และลงทุนอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทแล้ว และลูกค้าให้คำตอบว่า ขณะนี้ลูกค้ายังไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว ทั้งกลุ่มลูกค้าสัญชาติสหรัฐอเมริกา และลูกค้าสัญชาติจีน

สำหรับชิป AI ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้งาน และกลุ่มลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทาง WHA ขายที่ดินให้ภายในนิคมอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติอเมริกา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ทางสหรัฐฯ จะไม่ขายชิป AI ให้

ดังนั้นมองว่าราคาหุ้นของ WHA ที่ปรับตัวลงวานนี้ น่าจะเกิดจากตลาดกังวลจนเกินไป  และเข้าใจกันคลาดเคลื่อน โดยอยากให้มองภาพรวมของผลการดำเนินงานทั้งกลุ่ม WHA ที่ยังคงตัวเลขเดิม และโดยเฉพาะตัวเลขยอดขายที่ดินของนิคมอุตสาหกรรมในไทยที่ทำได้เกินเป้าหมายแล้ว  ขณะที่ส่วนตัวไม่ได้เข้ามาดูราคาหุ้นในตลาดที่มีการปรับตัวขึ้นหรือลง แต่มุ่งเน้นผลักดันผลการดำเนินงานให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า

ขณะที่ผลการดำเนินงานของกลุ่ม WHA ในปี 2568 ยังคงเป้าหมายตัวเลขไว้ตามเดิม โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 จะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2568 และช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค รวมถึงโลจิสติกส์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง และโดยเฉพาะธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่มียอดโอนที่ดินตามเป้าหมายที่วางไว้ 500 ไร่  ส่วนการเจรจาปิดดีลขายที่ดินกับลูกค้ารายใหญ่กลุ่มธุรกิจคอนซูมเมอร์ ขนาด 500 กว่าไร่ คาดว่าจะปิดดีลได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้

อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทมีหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ที่รอเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินมากกว่า 1,300 ไร่ ซึ่งไม่รวมการเจรจากับลูกค้ารายใหม่ ๆ และที่อยู่ระหว่างการเจรจาปิดดีลขายที่ดินให้กับลูกค้ากลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์อีก 20 กว่าราย คาดว่าจะปิดดีลภายในปี 2568 ประมาณ 2-3 ราย และปี 2569 มีบางรายที่มีการเจรจาซื้อขายที่ดินมากถึง 1,000 ไร่

อีกทั้งเป้าหมายทั้งปี 2568 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันยอดขายที่ดินที่ประมาณ 2,350 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากการขายที่ดินในประเทศไทย 2,000 กว่าไร่ จากเป้าเดิมตั้งไว้ 1,700ไร่ และยอดขายที่ดินในประเทศเวียดนามที่ตั้งเป้าเดิมไว้ 650 ไร่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอดูสถานการณ์ อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่า ทั้งปี 2568 จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 2,000

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สหรัฐฯ มีแผนจำกัดส่งออกชิป AI มายังไทยและมาเลเซีย เพื่อป้องกันการส่งผ่านไปยังจีน อาจกระทบโดยตรงต่อผู้นำเข้าชิป AI ในส่วนของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมอย่าง WHA และ AMATA มองว่าผลกระทบจริงจำกัด เพราะการจำกัดส่งออกชิป AI ของสหรัฐอเมริกามีวัตถุประสงค์ป้องกันไม่ให้ชิปถูกส่งผ่านไปที่จีน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กระแสสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแผนจำกัดการส่งออกชิป AI ให้กับไทยและมาเลเซียนั้น ฝ่ายวิเคราะห์ให้น้ำหนักผลกระทบจิตวิทยาทางลบ โดยตลาดมีโอกาสประเมินความเสี่ยงต่อศักยภาพอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีไทยระยะกลาง-ยาว ส่วนผลกระทบพื้นฐานยังมองภาพจำกัด โดยนิคมฯ WHA และ AMATA ที่ตลาดอาจจะกังวลการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน Data Center รองรับ AI ในอนาคตอาจสะดุด

นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินการสร้างของผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ใช้ดำเนินธุรกิจ และบริษัทที่ลงทุน หรือกำลังลงทุนส่วนใหญ่ 1-2 ปีนี้ ยังเป็นสัญชาติอเมริกัน จึงไม่น่าจะมีภาพสะดุดระยะสั้น ส่วนในกลาง-ยาว ต้องติดตามการลงทุน Data Center ผู้ประกอบการจีน ว่าจะมีประเด็นโดนจำกัดด้วยหรือไม่ กรณีใช้ชิปเพื่อลงทุนในไทย

ดังนั้นหากพิจารณาการปรับตัวของผู้ประกอบการจีนในปัจจุบันที่สามารถใช้ชิปรุ่นรองพัฒนา AI ได้เช่นกัน ทำให้โดยรวมมองผลกระทบระยะกลาง-ยาว ยังมีเวลาพอปรับตัวในกรณีที่โดนสั่งห้าม

Back to top button