
ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 68 โตแผ่วเหลือ 1.6% ส่งสัญญาณผ่อนคลาย “นโยบายการเงิน”
ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 68 ชะลอลงเหลือเพียง 1.6% จากแรงกดดันส่งออก–บริโภค พร้อมแนะนโยบายการเงินผ่อนคลายรองรับความไม่แน่นอนในและนอกประเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 2568 ว่ามีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.6% ชะลอลงจากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้ดี โดยประเมินว่าอัตราการขยายตัวของ GDP ทั้งปีจะต่ำกว่า 2% ต่อเนื่องอย่างน้อยถึงปี 2569 จากผลกระทบของมาตรการภาษีการค้าของสหรัฐฯ ที่กดดันการส่งออก ซึ่งคาดว่าจะหดตัว 4% ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ และหดตัวต่อเนื่องอีก 2% ในปีหน้า
แม้ภาคการผลิตและส่งออกในช่วงต้นปีจะขยายตัว หน่วยงานกำกับดูแลการเงินกลางเตือนว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากภายนอก โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ และความเปราะบางของสินเชื่อภาคครัวเรือนและธุรกิจ SMEs
ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นแรงพยุงสำคัญของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะไกลที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มระยะใกล้ราว 1.7 เท่า อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายกลับกระจุกตัวใน 6 เมืองหลัก เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยยังต้องใช้เวลา ส่งผลให้การเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568-2569 คาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ยเพียง 3.5% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวโลกที่ 5%
ด้านอัตราเงินเฟ้อ แม้อยู่ในระดับต่ำจากราคาพลังงานและอาหารสดที่ลดลง แต่ราคาสินค้าในหมวดที่จำเป็นในชีวิตประจำวันยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนภาระค่าครองชีพที่ยังสูง ขณะที่ภาวะการเงินยังคงตึงตัว และคุณภาพของสินเชื่อในระบบมีแนวโน้มอ่อนแอลง
ในส่วนของค่าเงินบาท ธปท.ระบุว่าแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาคที่แข็งค่าจากแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ท่ามกลางความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน ธปท.แนะว่านโยบายการเงินควรดำเนินไปในทิศทางผ่อนคลายอย่างมีชั้นเชิง เพื่อประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมเตือนถึงข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง เช่น ความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นความท้าทายเชิงระบบในระยะยาว