วันนี้รวย

ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยจะขึ้นแรงจากหุ้นบางตัว หรือตลาดหุ้นไทยจะลงแรงจากการขายทำกำไร ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกหนักใจแต่อย่างใด


ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยจะขึ้นแรงจากหุ้นบางตัว หรือตลาดหุ้นไทยจะลงแรงจากการขายทำกำไร ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกหนักใจแต่อย่างใด เพราะโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงของการยกฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม จึงมีการชักเย่อระหว่างแรงซื้อกับแรงขายอีกสักพัก อีฉันเลยมองว่า การประคองตัวเหนือระดับ 1,300 จุด ยังเป็นโมเมนตัมที่ดีพะยะค่ะ

ในเมื่อภาพรวมการลงทุนไม่ได้แย่ลงเหมือนที่กังวล “โมนิก้า” เลยมองว่า การเริ่มใช้คนละครึ่งพลัสวันนี้เป็นวันแรก น่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจหมุนแรงอีกครั้ง และจะส่งผลโดยตรงต่องบไตรมาส 4 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเมื่อรวมกับประเด็นลดดอกเบี้ยที่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วนี้ อีฉันถึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นเศรษฐกิจไทยกำลังจะเคลื่อนตัวแรงไงล่ะคะ

ที่สำคัญคือ วันนี้คนในประเทศประมาณ 20 ล้านคนจะมีเงินจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในระบบสูงถึง 8 หมื่นล้านบาท และหากจะพูดว่า วันนี้รวย! คงไม่ผิดไปจากความจริงสักเท่าไหร่? ขณะเดียวกันจะเห็นว่า การที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,314.28 จุด ลบไป 9.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.40 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นโอกาสของการซื้อรอบใหม่ เพราะภาพรวมในภายภาคหน้ายังดูดีนะซี

โดยเฉพาะการย่อตัวของเจ้าพ่อบัตรเครดิต KTC ถือเป็นช็อตที่ทำใหอีฉันสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นการย่อตัวลงมาเรื่อย ๆ หลังจากขึ้นไปแตะยอดเก่าที่บริเวณ 31.75 บาท จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ระดับ 28.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 748 ล้านบาท ทั้งที่โบรกฯ ให้ราคาเฉลี่ยเหมาะสมที่บริเวณ 35 บาทแบบนี้ น่าทยอยซื้อสะสมหรือไม่? ลองไปคิดกันดูนะออเจ้า

ส่วนรายที่มีข่าวดีรอรับเต็มประตูหน้าต่าง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น GUNKUL เพื่อชี้ให้เห็นโอกาสทองในเรื่องของโซลาร์ชุมชน ซึ่งว่ากันว่า รายนี้น่าจะได้งานแบบจุก ๆ เพราะมีความพร้อมทั้งในส่วนของงานก่อสร้าง งานอุปกรณ์ และยังมีความถนัดในงานขายไฟ อีฉันถึงมองการยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 2.10 บาท  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 97 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 10 เท่า น่าสนใจสุด ๆ เจ้าค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้นน้องใหม่อย่าง MASTEC เป็นรายถัดมา เพราะเป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่า กำไรในครึ่งปีหลังมักจะออกมาดี และมีการประเมินกำไรปี 68 จะแตะระดับ 60 ล้านบาทเสียด้วย อีฉันถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1.33 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.48% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาไอพีโอ 1.45 บาท น่าจะเป็นโอกาสซื้อนะตัวเอง

ส่วนรายที่ทำผลงานครึ่งปีแรกได้ดีอย่าง SNNP กลายเป็นช็อตที่ทำให้อีฉันสนใจขึ้นมาทันที หลังเห็นราคาหุ้นร่วงมารอบหนึ่งในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ต่อจากนั้นเด้งกลับขึ้นไปยืนเหนือ 10 บาท ก่อนจะร่วงอีกในเดือน ก.ย.-ต.ค. จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ระดับ 7.85 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 4.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่แห้งเหือดแบบนี้ อีฉันถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก และคิดได้อย่างเดียวว่า ผลงานไตรมาส 3 ไม่ดีกระมัง!

ปิดท้ายกันที่หุ้น WHA เพื่อชี้ให้เห็นแรงขายที่ออกมาเยอะเป็นวันที่ 2 จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 3.36 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 2.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 488 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่สามารถทำใจยอมรับได้ เพราะภาพของการลงทุนอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในไตรมาส 3 ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด นักลงทุนเลยกังวลกันว่า เรื่องดังกล่าวอาจกระทบกับธุรกิจเต็ม ๆ และอาจทำให้กำไรไม่เป็นไปตามเป้านะซี

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button