
KTC วิ่งต่อ 4% ลุ้นกำไร Q2 แตะ 1.9 พันล้านบาท รักษาคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ
KTC วิ่งต่อ 4% ลุ้นกำไรไตรมาส 2/68 แตะ 1.9 พันล้านบาท โต 3.8% เดินหน้ารักษาคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ-บัตรเครดิตเข้มข้น ส่วนเป้ากำไรทั้งปีคาด 7.5 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ณ เวลา 10:00 น. อยู่ที่ระดับ 28.75 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 3.60% สูงสุดที่ระดับ 28.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 28.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 405.67 ล้านบาท
นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC เปิดเผยว่า เคทีซีเตรียมแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2568 ภายในวันนี้ (18 ก.ค. 2568) พร้อมกับยืนยันว่า ผลประกอบที่ออกมา “ไม่มีอะไรที่ทำให้ตลาดช็อก” แน่นอน
ส่วนภาพรวมธุรกิจเคทีซีช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขึ้นอยู่กับภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ที่ค่อนข้างมีความท้าทายอยู่พอสมควร แต่เคทีซีไม่กังวลต่อคุณภาพพอร์ตของสินเชื่อ เพราะยังควบคุมได้ดี
“ที่ผ่านมาเคทีซียึดหลักการอนุมัติสินเชื่อรวมถึงการอนุมัติบัตร (เครดิต) ใหม่อย่างระมัดระวัง เพื่อให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ โดยยังเน้นกลุ่มรายได้สูง อย่างไรก็ดี การเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิตของเคทีซียังเป็นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการรัฐที่ออกมากระตุ้นภาคท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง” นางพิทยา กล่าว
ด้านการออกบัตรเครดิตใหม่ช่วงครึ่งปีแรก นางพิทยา ยอมรับว่า อาจชะลอตัวลงบ้างแต่ไม่ได้ห่างเป้าหมายมากนัก เพราะบริษัทฯ ต้องการเน้นในเรื่องของคุณภาพพอร์ตมากกว่าปริมาณ ขณะเดียวกัน อาจจะส่งผลให้เป้าหมายการออกบัตรเครดิตใหม่ทั้งปี 2568 ต่ำกว่าเป้าหมายได้เล็กน้อย
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น KTC โดยให้ราคาพื้นฐานใหม่ที่ 40.00 บาท แม้มีการปรับลดจากเดิม เพื่อสะท้อนระดับ P/E ปัจจุบัน โดยมองว่า KTC มีแนวโน้มสร้างกำไรปี 2568 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อน จากการฟื้นตัวของสินเชื่อและยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่หนุนรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมให้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการตั้งสำรองที่ลดลง แม้ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
ส่วนไตรมาส 2/2568 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่ม 1.9% จากไตรมาสก่อน ส่วนกำไรครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) คาดว่าจะอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ที่ระดับ 7.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% ซึ่งแม้จะเติบโตไม่มาก แต่ยังถือเป็นระดับ New high ขณะที่ KTC ยังคงมีผลประกอบการที่โดดเด่นกว่ากลุ่ม ทั้งในด้านสินเชื่อและการใช้จ่ายผ่านบัตร จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ได้แนะนำซื้อหุ้น KTC ให้ราคาเหมาะสมที่ 32 บาท โดยคาด KTC จะมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 1.91 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) และเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน (YoY) สินเชื่อคาดโต 2.3% จากปีก่อน และการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อน ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะอยู่ที่ 1.93%
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น KTC ที่ปรับตัวลงแรงก่อนหน้านี้ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน จนปัจจุบันซื้อขายบนพี/อี ปี 2568 ที่ 8.4 เท่า และอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) ที่ 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ 16-17% ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นที่ ROE สูงที่สุดในบริษัทการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารของไทย
“มีมุมมองเป็นบวกเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานของ KTC เมื่อพิจารณาจากผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ที่คาดจะสูงถึง 6-7% ในปี 2568-2570 จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่มั่นคง พร้อมสินเชื่อค่อย ๆ ขยายตัว รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นโดยเฉพาะรายได้จากหนี้เสียรับคืน งบดุลที่ดีพร้อมโอกาสในการรักษา Credit cost ไว้ในระดับต่ำ และส่วนแบ่งตลาดที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจบัตรเครดิต”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีโบรกเกอร์จำนวน 13 แห่งได้วิเคราะห์หุ้น KTC พร้อมกับราคาเป้าหมาย โดยราคาเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 53 บาท และต่ำสุด 18 บาท ส่วนราคาเป้าหมายเฉลี่ยจากโบรกฯ 13 แห่ง อยู่ที่ 37.50 บาท ซึ่งราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน (วานนี้ปิด 27.75 บาท) มีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยประมาณ 35%