
เจรจาการค้าคืบหน้า! “สหรัฐ” ยื่น 3 ข้อเสนอ “ไทย” ลุ้นลดภาษีสู้เวียดนาม
“ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์” เผยบรรยากาศเจรจาสหรัฐมีความคืบหน้า ผู้แทนการค้ายื่น 3 ข้อเสนอเพิ่มเติม คาดภาษีใหม่ต่ำกว่า 20% เสริมศักยภาพแข่งขัน ด้าน “บล.กรุงศรี” ประเมิน SET ขยับขึ้นแตะ 1,260 จุด หนุน 12 หุ้นธีม Reopening Trade วิ่งนำตลาด
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ว่าทั้งสองฝ่ายมีความพึงพอใจมากขึ้น โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ได้ยื่นข้อเสนอ 3 ประเด็นให้ฝ่ายไทยพิจารณา ได้แก่ การเพิ่มรายการสินค้าที่เปิดตลาดให้สหรัฐฯ (MarketAxess), การลดข้อกีดกันที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers – NTB) และการส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินความเป็นไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่มีมากกว่าหมื่นรายการ อาทิ สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม
โดยกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่ามีความคืบหน้าอย่างมีนัย โดยอยู่ระหว่างการจัดทำรายการสินค้าเชิงเทคนิคเพื่อตอบข้อเสนอ USTR ทั้งในด้าน NTB, มาตรการ Local Content ที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ โดยต้องพิจารณาผลกระทบต่อประเทศที่สามอย่างรอบคอบ
สอดคล้องกับข้อมูลที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การเจรจาล่าสุดใช้เวลาตามกรอบ 30 นาที โดยมีบรรยากาศที่ดีและเจาะลึกรายละเอียดมากขึ้น โดยฝ่ายไทยย้ำชัดเจนว่า การเปิดตลาดต้องนำไปสู่การขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม ไม่ใช่เพียงแค่ลดการขาดดุลการค้าเท่านั้น
“ไทยยังคงยึดหลักการเดิม โดยเน้นการสร้างศักยภาพการแข่งขันของภาคเกษตรและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ SMEs และซัพพลายเชน พร้อมเสริมว่า ข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการเปิดตลาดบางสินค้าเป็นไปในทิศทางสมเหตุสมผล ไม่ใช่สิ่งที่ไทยต้องยอมแบบไม่มีเงื่อนไข และยืนยันว่าจะคงมาตรการควบคุมปริมาณการนำเข้าสำหรับสินค้าบางชนิด เช่น สินค้าเกษตร เพื่อให้สอดคล้องกับการผลิตในประเทศ” นายพิชัย ระบุ
ส่วนประเด็นการปรับลดอัตราภาษีนำเข้า นายพิชัย คาดว่าไทยมีโอกาสได้รับการจัดเก็บภาษีในระดับเดียวกับประเทศในภูมิภาค เช่น เวียดนามและอินโดนีเซีย ที่อัตราไม่เกิน 20% ซึ่งจะช่วยให้ไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างหารือเรื่อง Transshipment หรือการขนส่งสินค้าผ่านประเทศที่อาจมีหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับกรณีของเวียดนาม
สำหรับสินค้าอ่อนไหวอย่าง “เนื้อหมู” ที่หลายฝ่ายกังวล ยังไม่มีการเจรจาเชิงลึกในขณะนี้ และต้องรอท่าทีจากสหรัฐฯ เพิ่มเติม โดยฝ่ายไทยได้ส่งข้อเสนออย่างเป็นทางการแล้ว และคาดว่าจะได้รับคำตอบจากสหรัฐฯ ในเร็ววันก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. 2568 ซึ่งนายพิชัยเผยว่า ฝ่ายสหรัฐฯ แสดงท่าทีว่า “very substantial improvement” ต่อข้อเสนอไทย
ด้านบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (KSS) ประเมินว่า หากไทยสามารถเจรจาลดภาษีเหลือ 19–22% ได้จริง จะเป็นผลบวกต่อดัชนี SET โดยประเมินกรอบขยับขึ้นสู่ 1,230–1,260 จุด พร้อมแนะนำกลุ่มหุ้นเด่นตามธีม Reopening และได้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้า ได้แก่:
กลุ่ม Reopening ที่ Deep Value: หุ้นส่งออก เช่น KCE, HANA และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม WHA, AMATA
กลุ่มนำเข้า: หุ้นที่อาจได้ประโยชน์จากการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อาทิ ADVANC, COM7, ADVICE, INSET
กลุ่มพลังงานที่นำเข้าก๊าซ: อาทิ PTTGC, GULF, GPSC, BGRIM
ทั้งนี้ KSS ได้ประเมิน 4 ฉากทัศน์สำหรับภาษีนำเข้าไทย ดังนี้
1.ภาษี 15–18%: SET ขึ้นแรง +5% แตะ 1,260–1,300 จุด
2.ภาษี 19–22%: SET ขึ้นจำกัด 2–3% กรอบ 1,230–1,260 จุด
3.ภาษี 22–25%: SET ทรงตัวในกรอบ 1,200–1,230 จุด
4.ภาษีคงที่ 36%: SET ปรับฐานลงสู่ 1,120–1,150 จุด
อย่างไรก็ตาม KSS ประเมินว่าฉากทัศน์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้คือ กรณีที่ 2 คือภาษี 19-22% ซึ่งจะยังส่งผลบวกต่อศักยภาพการแข่งขันของไทย เทียบกับเวียดนามและอินโดนีเซีย