BCH เด้ง 3% ส่งซิกกำไร Q2 แตะ 344 ล้าน รับรายได้โรคค่าใช้จ่ายสูง-ผู้ป่วยต่างชาติพุ่ง

BCH บวก 3% โบรกคาดกำไรไตรมาส 2/68 เติบโต 2% แตะ 344 ล้านบาท รับปัจจัยหนุนบุ๊กเบิกจ่ายค่าบริการโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง จากประกันสังคม 12,000 บาท พร้อมผู้ป่วยเงินสด ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่ม เชียร์ “ซื้อ” เป้าราคาหมาย 16.50 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (23 ก.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ณ เวลา 11:05 น. อยู่ที่ระดับ 13.60 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.82% สูงสุดที่ระดับ 13.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35.22 ล้านบาท

ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BCH เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า บริษัทจะมีการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 ในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ซึ่งในไตรมาส 2/2568 มีแนวโน้มผลการดำเนินงานน่าจะเติบโตดีมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน เนื่องจากรายได้จากประกันสังคม จากการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW> 2) ได้ที่ระดับ 12,000 บาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการเบิกจ่ายได้ที่ระดับ 7,200 บาท

ขณะที่ผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยเงินสด และผู้ป่วยต่างชาติมีการฟื้นตัวกลับมาได้ดี โดยเฉพาะผู้ป่วยคูเวตที่จ่ายเงินเอง ทำให้มีผู้ป่วยนอก (OPD) ค่อนข้างหนาแน่น และผู้ป่วยใน (IPD) มีอัตราการครองเตียงในระดับสูง อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่ออนุมัติ และประกาศงบประจำไตรมาส 2/2568 ในวันที่ 15 สิงหาคม 2568

ส่วนทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 จะออกมาดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากในปี 2568 จะมีการเบิกจ่ายค่าบริการ AdjRW> 2 จากประกันสังคมที่ระดับ 12,000 บาท ตลอดทั้งปี จากช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ที่เบิกจ่ายได้ที่ระดับ 8,000 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 บริษัทคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ทำจุดสูงสุด (Peak) ของปี 2568 เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล และผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะชาวตะวันออกกลางจะกลับมาใช้บริการรักษาที่โรงพยาบาลในเครือ BCH ตามปกติ

ศ.ดร.นพ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2568 บริษัทคงเป้าหมายจะมีรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2567 ที่มีรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์ 11,800 ล้านบาท

ส่วนกรณีการค้างเบิกจ่ายของรัฐบาลประเทศคูเวต ปัจจุบันมีการดำเนินการในระดับการทูต และมีสัญญาณที่ดีที่จะได้รับการจ่ายหนี้คงค้าง แต่หากไม่ได้โรงพยาบาลที่มีการค้างจ่ายกับทางคูเวตจะต้องมีการตั้งสำรองตามรอบงบบัญชีสิ้นปีนี้ ซึ่ง BCH มีค้างจ่ายระดับร้อยล้านบาท และโรงพยาบาลบางแห่งจะกระทบระดับพันล้านบาท

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น BCH ให้ราคาเป้าหมาย 16.50 บาทต่อหุ้น เนื่องจากผู้บริหารประเมินว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2568  จะเติบโต 5-6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอุปสงค์ในกลุ่มลูกค้าเงินสดที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะบริการผู้ป่วยใน และรายได้จากประกันสังคมที่ยังทรงตัวแข็งแกร่งต่างจากไตรมาส 2/2567 ที่เคยได้รับผลกระทบจากอัตราชดเชย AdjRW> 2 ที่ลดลง

ดังนั้น คาดการณ์กำไรหลักของไตรมาส 2/2568 จะอยู่ที่ 344 ล้านบาท เติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเติบโต 5% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ประเมินรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์จะอยู่ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท เติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 3% จากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ยังได้การสนับสนุนจากผู้ป่วยเงินสด และประกันสังคม รวมถึงรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติที่เริ่มฟื้นตัว

Back to top button